Page 281 - ebook.msu.ac.th
P. 281

อุรังคธาตุ จ.ศ. ๑๑๖๗ (พ.ศ. ๒๓๔๘)  281



                   ประวัติ       :  ตามหนังสือกราบทูลของพระยาพนมนครานุรักษ์ ลงวันที่ ๑๒
                   ตุลาคม ๒๔๖๓ กราบทูลสมเด็จกรมพระยาด ารงราชานุภาพนั้น ดูเหมือนว่าเพิ่งจะค้นพบ
                   และคัดลอกส าเนาส่งมา และในบัญชีส ารวจของกรมศิลปากร พิมพ์ พ.ศ. ๒๔๖๗ กล่าวว่า
                   “หินฝังที่บัลลังก์ของพระวิหารทิศตะวันออก จ านวน ๑๘ บรรทัด ภาษาไทย               จ.
                   ศ. ๙๗๖”  ตามหนังสือที่ ๒๕๙/๒๔๙๕ ของแผนกศึกษาธิการจังหวัดนครพนม แจ้งว่า
                   “ตามที่กรมศิลปากรให้ค้นหาศิลาจารึกที่พระธาตุพนม ที่ประตูตะวันออกวิหารทิศใต้
                   มีจารึก ๖ แห่ง ๆ ละ ๑๔ บรรทัดนั้น ทางจังหวัดนครพนมหาไม่พบ แต่พบจารึกรายอื่นจึง
                   คัดลอกส่งมา”  (จารึกบนแผ่นดินเผา ธาตุพนม ๓) ซึ่งไม่ได้กล่าวถึงจารึกพระธาตุพนม ๒
                   แต่อย่างไรก็ตาม น่าเชื่อได้ว่า จารึกหลักนี้ยังคงอยู่จนถึงสมัยพระธาตุพนมล่ม พ.ศ. ๒๕๑๘
                   ดังปรากฏใน จดหมายเหตุการณ์บูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุพนม พ.ศ. ๒๕๒๒ หน้า ๒๙
                   ว่า “พระเจ้าเมืองนครพนมได้มาปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุพนมเมื่อศักราช ๙๗๖ ตรงกับ
                   พ.ศ. ๒๑๕๗ และได้ท าจารึกขึ้นแผ่นหนึ่ง กล่าวถึงถาวรวัตถุที่ได้บูรณะ ศิลาจารึกหลักนี้
                   เดิมพบอยู่ที่ใต้ฐานหอพระแก้ว จึงขุดขึ้นมาประดิษฐานไว้ตรงมุมก าแพงแก้วด้านเหนือ
                   ครั้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ สร้างก าแพงแก้วใหม่ จึงย้ายมาที่เชิงปราสาทหอข้างพระ ด้านหน้า
                   องค์พระธาตุพนม เมื่อองค์พระธาตุพนมล้ม ศิลาจารึกก็ถูกพังทับด้วย”  จารึกหลักนี้อ่าน
                   ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ และส่งมากรุงเทพฯ พร้อมกับส าเนาลายมือลงชื่อผู้อ่านว่า
                   นายจารย์ ธรรมรังสี และ รองอ ามาตย์ตรี วาศ สมิตยนตร์ ผู้จด ต่อมา พระเทพรัตนโมลี
                   ได้ศึกษาและพิมพ์เผยแพร่ ครั้งแรกพิมพ์รวมอยู่ในหนังสือ “อุรังคนิทาน” และพิมพ์อีกครั้ง
                   ในหนังสือ “จดหมายเหตุการณ์บูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุพนม”
                   เนื้อหาโดยสังเขป ๒  :  พระยานครพิชิตธานี พร้อมด้วยท้าวพระยาในท้องถิ่นได้บูรณะพระ
                   ธาตุพนม และสร้างก าแพงแก้วล้อมรอบพระธาตุ รวมทั้งสร้างถาวรวัตถุอื่น ๆ อีกด้วย
                   ตอนท้ายได้สาปแช่งผู้ถือสิทธิ์ครอบครอง ท าลายทานวัตถุ อันได้แก่ ทาสโอกาส ที่ดิน ไร่นา
                   ของวัด ในครั้งนี้ได้บูรณะเรือนธาตุชั้นที่ ๑ และกล่าวถึงการตกแต่งด้วย                  ซึ่ง
                   น่าจะหมายถึงลวดลายจ าหลักอิฐรอบเรือนธาตุ
                   ผู้สร้าง      : พระยานครพิชิตราชธานี
                   การก าหนดอายุ  : ข้อความจารึกบรรทัดที่ ๑ ระบุ จ.ศ. ๙๗๖ ซึ่งตรงกับ พ.ศ. ๒๑๕๗
                                 อันเป็นสมัยที่พระวรวงศาธรรมิกราชปกครองราชอาณาจักรล้านช้าง
                                 (พ.ศ. ๒๑๔๑-๒๑๖๕)




                   ๒
                     ดูเนื้อหาการปริวรรตที่
                   http://www.sac.or.th/databases/inscriptions/inscribe_image_detail.php?id=21

                   70
   276   277   278   279   280   281   282   283   284   285   286