Page 60 - ปฏิบัติการ Lab Bilology II
P. 60
ี
ิ
ปฏบัติการชววิทยา 2 [Biology Laboratory 2] ภาควิชาชววิทยา คณะวิทยาศาสตร มมส.
ี
์
52 ผศ.ภาสกร บญชาล ี
ุ
ื
ี
2.2 พชมเมล็ด (Seed plants)
2.2 พชมเมล็ด (Seed plants)
ื
ี
ี
2.2 พชมเมล็ด (Seed plants)
ืืชมีเมล็ด (Seed plants)
2.2 พ
~806
2.2.1 พชเมล็ดเปลือย (Gymnosperms) ~806
ื
ื
2.2.1 พชเมล็ดเปลือย (Gymnosperms)
2.2.1 พชเมล็ดเปลือย (Gymnosperms)
2.2.1 พ
ืืชเมล็ดเปลือย (Gymnosperms)
~806
Phylum Ginkgophyta แปะกวย ~806 1
แปะกวย
1
Phylum Ginkgophyta
แปะก
1 1
วย
Phylum Ginkgophyta
Phylum Ginkgophyta
Phylum Cycadophyta แปะกวย ~130
ปรง
~130
ปรง
Phylum Cycadophyta
ปรง
Phylum Cycadophyta
Phylum Cycadophyta
~130
ปรง
ื มะเมือย
~75 ~75
Phylum Gnetophyta มะเมอย ~130
่
่
Phylum Gnetophyta
มะเมอย
~75
Phylum Gnetophyta
่
ืือย
Phylum Gnetophyta
มะเม
~75
่
Phylum Coniferophyta สนสามใบ ~600
~600
สนสามใบ
Phylum Coniferophyta
Phylum Coniferophyta
Phylum Coniferophyta
~600
สนสามใบ
2.2.2 พช ืดอก (Angiosperms) สนสามใบ ~600
ื
2.2.2 พชดอก (Angiosperms)
2.2.2 พชดอก (Angiosperms)
2.2.2 พ
ืืชดอก (Angiosperms)
Phylum Anthophyta
Phylum Anthophyta พชดอก ~250,000
~250,000
ืพืชดอก
Phylum Anthophyta
พชดอก
~250,000
Phylum Anthophyta
่
้
ออย
~56,000
Class Monocotyledones (พชใบเลียงเดียว)
ื
่
้
Class Monocotyledones (พชใบเลียงเดียว) ื พืชดอก ~250,000
ออย
ื
~56,000
~56,000
ออย
้
Class Monocotyledones (พชใบเลียงเดียว)
่
้
~56,000
ออย
Class Monocotyledones (พ
ืืชใบเลียงเดียว)
่
ื
Class Dicotyledones (พชใบเลี้ยงคู)
~179,000
ื
อินทนิล
Class Dicotyledones (พชใบเลี้ยงคู) อินทนิล ~179,000
Class Dicotyledones (พชใบเลี้ยงคู)
Class Dicotyledones (พ
อินทนิล
อินทนิล
~179,000
~179,000
ืืชใบเลี้ยงคู)
ี
่
ตารางท 5.2 เปรียบเทียบลักษณะตางๆ ของพืชแตละกลุม
่
ี
ตารางท 5.2 เปรียบเทียบลักษณะตางๆ ของพืชแตละกลุม
่
่
ีี 5.2 เปรียบเทียบลักษณะตางๆ ของพืชแตละกลุม
ตารางท 5.2 เปรียบเทียบลักษณะตางๆ ของพืชแตละกลุม
ตารางท
ั
ั
ื
1. ลกษณะทวไปของพชในไฟลมไบรโอไฟตา (Phylum Bryophyta ; มอส)
่
ั
ั
ื
ั
่
่
1. ลกษณะทวไปของพชในไฟลมไบรโอไฟตา (Phylum Bryophyta ; มอส)
1.
ั ลักษณะทัวไปของพืชในไฟลัมไบรโอไฟตา (Phylum Bryophyta ; มอส)
ิ
ั
ี
ี
ตนพชทเราพบเห็นตามธรรมชาตโดยทวไปเปนระยะแกมโทไฟต ซงเปนระยะเดน ซงไมมราก ลําตน
่
่
่
ื
ึ
1. ลกษณะทวไปของพชในไฟลมไบรโอไฟตา (Phylum Bryophyta ; มอส) ่ ึ ่ ึ ่ ี ี
ื
ั
ั
ั
่
่
ี
ึ
ั
ิ
่
่
ี
ื
ตนพชทเราพบเห็นตามธรรมชาตโดยทวไปเปนระยะแกมโทไฟต ซงเปนระยะเดน ซงไมมราก ลําตน
่
ตนพืชทีเราพบเห็นตามธรรมชาติโดยทัวไปเปนระยะแกมีโทไฟต ซึงเปนระยะเดน ซึงไมมีราก ลําตน
่
่
ื
ี
่
ี
่
ุ
ี
ี
ี
ตนพชทเราพบเห็นตามธรรมชาตโดยทวไปเปนระยะแกมโทไฟต ซงเปนระยะเดน ซงไมมราก ลําตน
่
ี
ึ
และใบทแทจริง ลําตนมขนาดเล็กและทกเซลลทประกอบเปนตนพชมีชุดโครโมโซม 1n ไมมระบบทอลําเลียง
่
ึ
ี
่
ื
ั
่
ิ
และใบทแทจริง ลําตนมขนาดเล็กและทกเซลลทประกอบเปนตนพชมีชุดโครโมโซม 1n ไมมระบบทอลําเลียง
ี
ี
ี
่
ื
่
ุ
และใบท
ีีแทจริง ลําตนมีขนาดเล็กและทุกเซลลทีประกอบเปนตนพืชมีชุดโครโมโซม 1n ไมมีระบบทอลําเลียง
่
่
้
(vascular tissue) ในเซลลของเนื้อเยือตางๆ ไมมสารลิกนิน (lignin) และเซลลชันผิว (epidermis cell) ไมมี
ี
่
ี
และใบทแทจริง ลําตนมขนาดเล็กและทกเซลลทประกอบเปนตนพชมีชุดโครโมโซม 1n ไมมระบบทอลําเลียง
่
ื
ุ
ี
ี
่
ี
้
้
ี
(vascular tissue) ในเซลลของเนื้อเยือตางๆ ไมมสารลิกนิน (lignin) และเซลลชันผิว (epidermis cell) ไมมี
่
(vascular tissue) ในเซลลของเนื้อเย
่ือตางๆ ไมมีสารลิกนิน (lignin) และเซลลชันผิว (epidermis cell) ไมมี
ิ
้
ี
ชันควติเคล จึงมกพบพชเหลานีในบริเวณท่มความชืนสูง โครงสรางของพชในระยะนี้ประกอบดวย สวนคลาย
ื
ื
ิ
้
ั
้
ี
่
้
(vascular tissue) ในเซลลของเนื้อเยือตางๆ ไมมสารลิกนิน (lignin) และเซลลชันผิว (epidermis cell) ไมมี
ี
ิ
ชันควติเคล จึงมกพบพชเหลานีในบริเวณท่มความชืนสูง โครงสรางของพชในระยะนี้ประกอบดวย สวนคลาย
้
้
ั
้
ี
ื
้ ชันคิวติเคิล จึงมักพบพืชเหลานีในบริเวณที่มีความชืนสูง โครงสรางของพืชในระยะนี้ประกอบดวย สวนคลาย
ื
้
ี
้
ิ
ื
ราก (rhizoid) สวนคลายตน (cauloid) และสวนคลายใบ (phylloid) การสืบพันธุแบบอาศยเพศ พชจะสราง
ั
ิ
ื
ิ
ั
้
ื
้
ชันควติเคล จึงมกพบพชเหลานีในบริเวณท่มความชืนสูง โครงสรางของพชในระยะนี้ประกอบดวย สวนคลาย
ี
ี
้
ื
ราก (rhizoid) สวนคลายตน (cauloid) และสวนคลายใบ (phylloid) การสืบพันธุแบบอาศยเพศ พชจะสราง
ั
ราก (rhizoid) สวนคลายต
น (cauloid) และสวนคลายใบ (phylloid) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ พืชจะสราง
่
ื
ั
อวัยวะสืบพนธุเพศผู (antheridium) และอวัยวะสืบพนธุเพศเมย (archegonium) เพอสรางเซลลสืบพนธุเพศผู
ั
ี
ั
ราก (rhizoid) สวนคลายตน (cauloid) และสวนคลายใบ (phylloid) การสืบพันธุแบบอาศยเพศ พชจะสราง
ื
ั
ื
่
ั
ี
อวัยวะสืบพนธุเพศผู (antheridium) และอวัยวะสืบพนธุเพศเมย (archegonium) เพอสรางเซลลสืบพนธุเพศผู
ั
อวัยวะสืบพ
่
ัันธุเพศผู (antheridium) และอวัยวะสืบพันธุเพศเมีย (archegonium) เพือสรางเซลลสืบพันธุเพศผู
่
ํ
ื
ั
ี
(sperm) ท่มแฟกเจลลา 2 เสน เพอใชในการวายน้าไปผสมกับไข (egg) ในเซลลสืบพนธุเพศเมย สวนพชใน
ี
ื
ี
่
อวัยวะสืบพนธุเพศผู (antheridium) และอวัยวะสืบพนธุเพศเมย (archegonium) เพอสรางเซลลสืบพนธุเพศผู
ั
ี
ื
ั
ั
(sperm) ท่มแฟกเจลลา 2 เสน เพอใชในการวายน้าไปผสมกับไข (egg) ในเซลลสืบพนธุเพศเมย สวนพชใน
(sperm)
ั
ื
ี
ี ที่มีแฟกเจลลา 2 เสน เพือใชในการวายน้าไปผสมกับไข (egg) ในเซลลสืบพันธุเพศเมีย สวนพืชใน
่
ื
ํ
ํ
่
ี
ื
้
ี
ระยะสปอโรไฟตประกอบดวยเซลลทรวมกนเปนตนพชมชุดโครโมโซม 2n มีอายุสัน จะเจริญอยูบนตนระยะ
ี
่
ั
่
(sperm) ท่มแฟกเจลลา 2 เสน เพือใชในการวายน้าไปผสมกับไข (egg) ในเซลลสืบพันธุเพศเมีย สวนพืชใน
ี
ี
ํ
่
ระยะสปอโรไฟตประกอบดวยเซลลทรวมกนเปนตนพชมชุดโครโมโซม 2n มีอายุสัน จะเจริญอยูบนตนระยะ
ี
้
ื
ั
ีีรวมกันเปนตนพืชมีชุดโครโมโซม 2n มีอายุสัน จะเจริญอยูบนตนระยะ
่
ระยะสปอโรไฟตประกอบดวยเซลลท
้
ื
แกมีโทไฟตตลอดชีวิต ซึ่งมีโครงสรางประกอบดวยสวนยึด (foot) ทาหนาทยึดระหวางตนพชระยะแกมโทไฟต
ี
ํ
ี
่
ั
แกมีโทไฟตตลอดชีวิต ซึ่งมีโครงสรางประกอบดวยสวนยึด (foot) ทาหนาทยึดระหวางตนพชระยะแกมโทไฟตยะ
่
้
ี
ื
่
ี
ีประกอบด
นตนพืชมีชุดโครโมโซม 2n มีอายุสัน จะเจริญอยูบนตนระ
ระยะสปอโรไฟตประกอบดวยเซลลทรวมกนเปวยสวนยึด (foot) ท ํําหนาทียึดระหวางตนพืชระยะแกมีโทไฟต
่
แกมีโทไฟตตลอดชีวิต ซึ่งมีโครงสราง
ื
่
ั
ั
ํ
ึ
้
ั
ี
ี
ั
กบตนพชระยะสปอโรไฟต สวนกานชูอบสปอร (seta) ทาหนาทกานยืนอบสปอรขนสูอากาศ และมอบสปอร
่
แกมีโทไฟตตลอดชีวิต ซึ่งมีโ ครงสรางประกอบดวยสวนยึด (foot) ทําหนาทียึดระหวางตนพืชระยะแกมีโทไฟต
่
่
ึ
ั กับตนพืชระยะสปอโรไฟต สวนกานชูอับสปอร (seta) ทําหนาทีกานยืนอับสปอรขึนสูอากาศ และมีอับสปอร
ั
กบตนพชระยะสปอโรไฟต สวนกานชูอบสปอร (seta) ทาหนาทกานยืนอบสปอรขนสูอากาศ และมอบสปอร
่
ํ
้
ั
่
้
ื
ี
่
ี
ั
ั
ี
ั
้
่
่
กบตนพชระยะสปอโรไฟต สวนกานชูอบสปอร (seta) ทาหนาทกานยืนอบสปอรขนสูอากาศ และมอบสปอร
ี
ื
ํ
ึ
ั
ั