Page 81 - python
P. 81
55
ั
่
ั
่
ั
ํ
ตัวอยางที่ 5.14 การเชือมสมาชิกในตวแปรลีสตเขาดวยกนดวยคาสง join จะใชคาในตัวแปรสตริง
เปนตัวเชื่อม ในตัวอยางกําหนดตัวแปร z เปนตัวแปรรายการมีสมาชิกคือ ['Google', 'Gmail', 'Youtube']
เมื่อคําสั่ง "--".join(z) เปนการเชื่อมสมาชิกในตัวแปรลีสตดวยเครื่องหมาย "--" ผลลัพธ คือ Google--
Gmail—Youtube คําสัง ", ".join(z) เปนการเชื่อมสมาชิกในตัวแปรลีสตดวยเครื่องหมายคอมมา (, )
่
ผลลัพธ คือ "Google, Gmail, Youtube "
5.14 การคนหาขอความยอยภายในขอความทั้งหมดดวยคําสั่ง find() และ rfind()
คําสั่ง find() เปนการคนหาขอความยอยภายในขอความทั้งหมด ผลลัพธจะบอกตําแหนงเริ่มตน
ของคําคน หากไมพบคําตอบผลลัพธจะคืนคา -1
คําสั่ง rfind() เปนการคนหาคําจากดานขวาสุดของขอความ โดยมีรูปแบบไวยากรณ คือ
rfind(value, start, end) เมื่อ value คือ คําคน และ start คือ ตําแหนงเริ่มตนคน คาปริยายกาหนดที่
ํ
ํ
่
ื
ื
ิ
0 end คอ ตาแหนงสุดทายของการคน คาปรยายคอความยาวของสตรงทีคน
ิ
ตัวอยางที่ 5.15 การคนหาสตริงภายในสตริงดวย find()
a = 'Information Science'
b = 'Data Science'
print(a.find('on'))
print(b.find('on'))
ผลลัพธ :
9
-1
ตัวอยาง 5.15 ตัวแปร a เก็บคําวา 'Information Science' ตัวแปร b เก็บคําวา 'Data Science'
ตองการคนหาวามีคําวา "on" ในตัวแปรทั้งสองใชคําสั่ง find() และระบุคําคน ผลลัพธจะคืนคา 9 คือ
ตําแหนงเริ่มตนที่ 9 จากคําวา "Information Science" ตัวแปร b ไมมคําวา "on" อยูภายในจึงคนคา -1
ื
ี
ตัวอยางที่ 5.16 การคนหาสตริงภายในสตริงดวย rfind()
s = 'Information Science and Data Science'
print(s.rfind('and',10, len(s)))
s = 'Information Science and Data Science'
print(s.rfind('and',23, len(s)))
ผลลัพธ :
20
-1
ตัวอยางที่ 5.16 ตัวแปร s เก็บขอความ 'Information Science and Data Science' ตองการ
คนหาคําวา "and" โดยเริ่มคนจากตําแหนงที่ 10 ถึงตําแหนงสุดทายของตัวแปร s ดวยคําสั่ง len(s)