Page 83 - python
P. 83
57
ตัวอยางที่ 5.19 การนับจํานวนคําภายในสตริง
"information science".count("o")
ผลลัพธ :
2
ี
ตัวอยางที่ 5.19 ตัวแปรสตริงจะมฟงกชั่น count() สําหรับนับคําที่ปรากฎอยูภายในสตริง ใน
ตัวอยางเปนการนับจํานวนตัว "o" ที่ปรากฎในคําวา "information science" คําตอบคือ 2 ตัว
ู
5.17 การตรวจสอบขอความถกตองตามหลักการตังชือตวแปรและฟงกชันดวย isidentifier()
่
้
่
ั
คําสั่ง isidentifier() ใชสําหรับตรวจสอบวาขอความตั้งชื่อถูกหลักการตั้งชื่อตัวแปรหรือชื่อฟงกชั่น
หรือชื่อคลาสหรือไม
สตริงที่เปน identifer คือประกอบดวยตัวอักษร (a-z) และตัวเลข (0-9) หรือเครื่องหมาย
underscore (_) และตองไมเริ่มตนดวยตัวเลขและไมประกอบดวย space
ตัวอยางที่ 5.20 การตรวจสอบขอความถูกตองตามหลักการตั้งชื่อดวย isidentifier()
a = "x"
b = "2x"
c = "_x"
print(a.isidentifier(), b.isidentifier(), c.isidentifier())
ผลลัพธ :
True False True
ตัวอยางที่ 5.20 การตรวจสอบวาตัวแปรสตริงสามารถนําไปใชในการตั้งชื่อตัวแปร ชื่อฟงกชั่น ได
ื่
หรือไม ใชคําสั่ง isidentifier() เมอตัวแปร a ="x" b="2x" และ c = "_x" ผลลัพธคือ "2x" ไมสามารถ
ื
นําไปใชตั้งชื่อตวแปรไดเนองจากผิดไวยากรณเพราะขึนตนดวยตัวเลข
่
้
ั
5.18 การจัดการเกี่ยวกับตัวพิมพใหญและเล็ก
คําสั่ง upper() ใชสําหรับแปลงขอความใหเปนตัวพิมพใหญ
คําสั่ง lower() ใชสําหรับแปลงขอความเปนตัวพิมพเล็ก
คําสั่ง swapcase() ใชสําหรับสลับตัวพิมพใหญและเล็ก
ิ
คําสั่ง capitalize() ใชสําหรับแปลงตัวอักษรตัวแรกของขอความเปนตัวพมพใหญ
ตัวอยางที่ 5.21 การตรวจสอบขอความถูกตองตามหลักการตั้งชื่อดวย isidentifier()
s = "Information Science"
print(s.upper())
print(s.lower())
print(s.swapcase())