Page 47 - Spin Transport and Spintronics
P. 47
48
เมื่อกระแสสปินที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของตัวนำอิเล็กตรอนไหลผ่านไปยังชั้นวัสดุแม่เหล็กเฟอร์
โรชั้นแรกหรือชั้นพิน จะเกิดปฎิสัมพันธ์การแลกเปลี่ยน s−d ระหว่างแมกนีไทเซชันในชั้นวัสดุแม่เหล็ก
และสปินของตัวนำอิเล็กตรอน ทำให้กระแสสปินที่ไหลเข้าสู่ชั้นวัสดุแม่เหล็กเฟอร์โรมีแนวโน้มจัดเรียง
ตัวใหม่ไปตามทิศทางของแมกนีไทเซชัน ซึ่งเรียกกระแสสปินที่เกิดการจัดเรียงตัวไปในทิศทางใหม่ว่า
กระแสสปินโพลาไรซ์ (spin-polarized current) จากนั้นกระแสดังกล่าวจะเคลื่อนที่ผ่านบริเวณรอย
ต่อระหว่างชั้นพินและชั้นสเปสเซอร์ไปยังชั้นวัสดุแม่เหล็กเฟอร์โรชั้นที่สองหรือชั้นอิสระ ปฎิสัมพันธ์การ
แลกเปลี่ยน s−d ระหว่างแมกนีไทเซชันกับกระแสสปินโพลาไรซ์จะเกิดขึ้นอีกครั้งในชั้นอิสระ ส่งผล
ให้เกิดสปินทอร์คกระทำต่อกระแสสปินโพลาไรซ์และในขณะเดียวกันจะเกิดสปินทอร์คคู่กิริยากระทำ
ต่อแมกนีไทเซชันในชั้นอิสระ ซึ่งเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์พลังงานของโมเมนตัมเชิงมุม โดยขนาดของ
แรงบิดสปินหรือสปินทอร์คที่กระทำต่อแมกนีไทเซชันจะแปรผันตรงกับความหนาแน่นของกระแสที่
ป้อนเข้ามา กรณีที่แรงจากสปินทอร์คกระทำต่อแมกนีไทเซชันมีค่ามากพอจะทำให้แมกนีไทเซชันเกิด
การเปลี่ยนแปลงทิศทางและจัดเรียงตัวตามทิศทางของกระแสสปินโพลาไรซ์ซึ่งมีแนวโน้มจัดเรียงตัวใน
ทิศทางเดียวกันกับแมกนีไทเซชันของชั้นพิน แต่ในกรณีที่ความหนาแน่นของกระแสสปินโพลาไรซ์มีค่า
น้อย สปินทอร์คที่เกิดขึ้นมีค่าไม่มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทางของแมกนีไทเซชันภายในชั้นอิสระได้
ซึ่งกรณีนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้สำหรับการวัดค่าความต้านทานเชิงแม่เหล็กในหัวอ่านข้อมูลโดยที่ไม่ทำให้
แมกนีไทเซชันภายในชั้นอิสระเกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทาง
หลักการควบคุมทิศทางแมกนีไทเซชันด้วยปรากฎการณ์สปินทอร์คถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการ
ทำงานของหัวเขียนและหัวอ่านข้อมูลในอุปกรณ์หน่วยความจำเชิงแม่เหล็กอย่างกว้างขวาง หัวอ่าน
ข้อมูลทำหน้าที่ในการตรวจจับทิศทางของแมกนีไทเซชันภายในบิตข้อมูลซึ่งเกิดจากกระบวนการเขียน
และมีรูปแบบเป็นไบนารีบิต (บิต 1 และบิต 0) โดยบิตข้อมูลจะถูกแสดงในรูปแบบของสัญญาณ
ทางไฟฟ้าผ่านค่าความต้านทานหรือแรงดันไฟฟ้า ดังนั้นในการวัดสัญญาณอ่านกลับ (read back
signal) จากแผ่นบันทึกข้อมูลสามารถทำได้โดยป้อนแรงดันไบอัสที่เหมาะสมเข้าสู่หัวอ่านข้อมูลเพื่อ
ทำการตรวจจับสัญญาณดังกล่าว ค่าแรงดันไบอัสที่น้อยเกินไปจะทำให้ไม่สามารถตรวจจับสัญญาณ
ทางไฟฟ้าได้ แต่ถ้ามากเกินไปจะทำให้เกิดค่าสปินทอร์คที่สูงกระทำต่อแมกนีไทเซชันในชั้นอิสระของ
หัวอ่านข้อมูล ทำให้แมกนีไทเซชันเกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางและส่งผลต่อการตรวจจับสัญญาณที่
คลาดเคลื่อนและไม่มีประสิทธิภาพ การอ่านค่าสัญญาณอ่านกลับจะอาศัยการป้อนแรงดันไบอัสเข้าสู่
โครงสร้างหัวอ่านข้อมูลและทำให้เกิดการสะสมสปินและกระแสสปินที่บริเวณรอยต่อและในชั้นวัสดุ
ซึ่งปริมาณทางฟิสิกส์ทั้งสองค่านี้มีความสำคัญต่อการออกแบบหัวอ่านข้อมูลที่เหมาะสม เนื่องจาก
เป็นปริมาณที่มีความสัมพันธ์กับการพิจารณาค่าความต้านทานเชิงแม่เหล็ก สำหรับโครงสร้างรอยต่อ
ทะลุผ่านเชิงแม่เหล็ก (MTJ) ที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้เป็นหัวเขียนในหน่วยความจำเข้าถึงแบบสุ่มเชิง
แม่เหล็กและหน่วยความจำแบบเรซแทรคจะอาศัยหลักการเกิดปรากฏการณ์สปินทอร์คเช่นเดียวกับ
กระบวนการอ่านข้อมูล แต่ความหนาแน่นของกระแสที่ป้อนเข้าสู่โครงสร้าง MTJ จะต้องมีค่าสูงพอที่จะ