Page 49 - Spin Transport and Spintronics
P. 49

2.1 สลอนเซวสกีทอร์ค                                                               50


                    V คือปริมาตรของวัสดุ


                    e คือประจุของอิเล็กตรอน


                    M p และ M คือเวกเตอร์หนึ่งหน่วยของแมกนีไทเซชันภายในชั้นพินและชั้นอิสระตามลำดับ

                    จากสมการที่ (2.1) พบว่าสลอนเซวสกีหรือ AST เป็นแหล่งกำเนิดของการเคลื่อนที่แบบหน่วงซึ่ง

              เกิดจากปฎิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนระหว่างกระแสสปินโพลาไรซ์กับแมกนีไทเซชันของชั้นอิสระ โดยทอร์คนี้

              จะออกแรงกระทำต่อแมกนีไทเซชันให้มีแนวโน้มการจัดเรียงตัวไปตามทิศทางของแมกนีไทเซชันภายใน

              ชั้นพินและอยู่ในแนวระนาบของ M p และ M ดังแสดงในรูปที่ 2.2 โดย AST ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่แบบ
              หน่วงจะสามารถเพิ่มหรือลดการเคลื่อนที่แบบหน่วงธรรมชาติ (natural damping) ที่เกิดขึ้นจากสนาม

              แม่เหล็กประสิทธิผลได้ โดยการเพิ่มหรือลดนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดและทิศทางของความหนาแน่นกระแส

              ไฟฟ้าที่ป้อนเข้าสู่โครงสร้างวัสดุ



























                        รูปที่ 2.2 การเกิด AST และ NAST ที่กระทำต่อแมกนีไทเซชัน M ในชั้นอิสระ





                    พารามิเตอร์ a =  ℏPI  ซึ่งแสดงขนาดความแรงของ AST จะขึ้นอยู่กับค่าพารามิเตอร์สปิน
                                    M sV e
              โพลาไรเซชันของวัสดุและขนาดของกระแสไฟฟ้าป้อน ดังนั้นในการควบคุมทิศทางแมกนีไทเซชันด้วย

              สปินทอร์คสามารถพิจารณาได้เป็นสองกรณี โดยในกรณีที่ป้อนกระแสไฟฟ้าด้วยความหนาแน่นที่น้อย
              กว่าค่าความหนาแน่นกระแสไฟฟ้าวิกฤต (critical current density) ซึ่งเป็นค่าความหนาแน่นที่น้อย

              ที่สุดที่เริ่มทำให้แมกนีไทเซชันเกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทาง แมกนีไทเซชันจะมีการเคลื่อนที่แบบหมุน

              วน (precessional motion) รอบสนามประสิทธิผลด้วยมุมค่าหนึ่ง ก่อนที่จะหมุนวนเป็นก้นหอยเข้าสู่
              ทิศทางสนามประสิทธิผล โดยพบว่าการป้อนกระแสไฟฟ้าที่มีค่าต่ำกว่าค่าความหนาแน่นกระแสวิกฤต

              สปินทอร์คที่เกิดขึ้นจะมีค่าไม่มากพอที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทิศทางของแมกนีไทเซชัน ซึ่งการ

              ป้อนกระแสในกรณีนี้จะถูกนำไปประยุกต์ใช้ในการอ่านสัญญาณของหัวอ่านข้อมูล
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54