Page 72 - ebook.msu.ac.th
P. 72
58
บทที่ 7
อักษรไทยน้อย
จำรึกวัดแดนเมือง 1 (จำรึกวัดปัจจันตบุรี) วัดปัจจันตบุรี ต ำบลวัดหลวง อ ำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคำย
ภำพจำก https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/2242
7.1 ประวัติและการใช้ตัวอักษรไทยน้อย
สมัย วรรณอดร (มปป. : 1-3) กล่ำวว่ำ อกษรไทยนอย เปนอกษรสกุลไทย เพรำะมีรูปสัณฐำน
ั
ั
ุ
ั
ตัวอักษรและอักขรวิธีเหมือนอักขรวิธีอักษรไทย แมจะมีอักขรวิธีอักษรธรรมเขำมำปะปนบำง เปนอกษรที่ใชอยู
ในกลุมวัฒนธรรมไทย-ลำว ที่อำศัยอยูลุมแมน้ ำโขง กลำวคือทั้งอำณำจักรลำนชำง (สปป.ลำว) และภำคอสำน
ี
ของไทยบำงสวน โดยมีศูนยกลำง วัฒนธรรมอยูที่เมืองหลวงพระบำงและเมืองเวียงจันทน โดยใชตัว
อักษรไทยนอยเปนอักษรทำงรำชกำรที่จดบันทึกเรื่องรำวตำงๆ ที่เปนคดีโลก เชน หนังสือรำชกำร (ใบบอกหรือ
ลำยจุม) กฎหมำย วรรณกรรมนิทำน เปนตน สวนคดีธรรม หรือเรื่องรำวเกี่ยวกับศำสนำ เชน พระธรรมคัมภีร
ชำดก คำถำอำคม เปนตน จะใชอักษรธรรมในกำรบันทึก เพรำะถือวำเปนตัวอกษรที่ศักดิ์สิทธิ์ จำกกำรศึกษำ
ั
ด้ำนจำรึกประกอบกับหลักฐำนทำงด้ำนประวัติศำสตร์ของนักอกขรวิทยำ พบว่ำอกษร ไทยน้อยได้พฒนำ
ั
ั
ั
มำจำกอักษรไทยสมัยพระยำลิไท แห่งสุโขทัย (พ.ศ. 1890 - 1911) ดังจะเห็นได้จำกจำรึกลำยเขียนสีที่ผนังถ้ ำ
นำงอัน เมืองหลวงพระบำง (ไม่บอกศักรำช) หรือศิลำจำรึกพระธำตุร้ำงบ้ำนแร่ อำเภอพงโคน จังหวัดสกลนคร
ั
ั
(พ.ศ. 1893) ซึ่งเป็นจำรึกในระยะแรก ๆ มีรูปแบบตัวอกษรและอกขรวิธีเหมือนกับตัวอกษรของพระยำลิไท
ั
ั
ั
ระยะหลังจำก พ.ศ. 2000 เป็นต้นมำพบว่ำ ศิลำจำรึกในภำคอสำนจ ำนวนมำกที่เขียนด้วยอกษร ไทยน้อย
ี
ได้คลี่คลำยรูปแบบสัณฐำนไปจำกอกษรไทยสมัยพระยำลิไท แต่กลับไปมีรูปแบบสัณฐำนคล้ำยกับอกษร ฝัก
ั
ั
ขำมของอำณำจักรล้ำนนำมำกขึ้น ซึ่งอำจเป็นเพรำะว่ำ อำณำจักรล้ำนช้ำงมีควำมใกล้ชิดกับอำณำจักรล้ำนนำและ
สืบทอดวัฒนธรรมมำจำกอำณำจักรล้ำนนำ โดยเฉพำะพระพทธศำสนำ เช่น สมัยพระเจ้ำวิชุลรำชที่ได้ฟนฟและ
ู
ื้
ุ
ุ
ท ำนุบ ำรุงพระพทธศำสนำเถรวำทจำกเชียงใหม่ ในสมัยพระเจ้ำโพธิสำลรำช พระโอรสของพระเจ้ำวิชุลรำชก็ได้
อภิเษกสมรสกับเจ้ำหญิงเมืองเชียงใหม่ และได้ขอพระเถระจำกเชียงใหม่คือ พระเทพมงคลกับบริวำรพร้อมทั้ง