Page 18 - Spin Transport and Spintronics
P. 18

1.1 ปรากฏการณ์ความต้านทานเชิงแม่เหล็กขนาดใหญ่                                     19










































                       รูปที่ 1.3 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าสนามแม่เหล็กภายนอกกับค่าความต้านทานเชิงแม่เหล็กและค่าแมก

                       นีไทเซชันในโครงสร้างวัสดุแม่เหล็ก [4]



                       บันทึกมูลในรูปของไบนารีบิต โดยอาศัยการตรวจจับทิศทางของแมกนีไทเซชันของบิตข้อมูลเพื่อแสดง

                       ค่าสัญญาณบิต 0 กับบิต 1 ในรูปแบบของค่าสัญญาณทางไฟฟ้า

                             การเกิดค่าความต้านทาน GMR จะขึ้นอยู่กับค่าความนำไฟฟ้าของวัสดุแม่เหล็กเฟอร์โรซึ่งเกิด

                       จากการแยกของแถบพลังงานของสปิน (spin-split band) ออกเป็นสองแถบพลังงานซึ่งเป็นอิสระต่อ

                       กันคือ แถบพลังงานของสปินขึ้นหรือสปินส่วนมาก (majority) และแถบพลังงานของสปินลงหรือสปิน
                       ส่วนน้อย (minority) โดยค่าความนำไฟฟ้าจะมีความสัมพันธ์กับการกระเจิงของสปินภายในโครงสร้าง

                       วัสดุและที่บริเวณรอยต่อระหว่างชั้นวัสดุ ซึ่งการกระเจิงของสปินในบริเวณรอยต่อจะมีค่าขึ้นอยู่กับ

                       ความสอดคล้องของโครงสร้างแถบพลังงาน (band matching) ระหว่างวัสดุแม่เหล็กเฟอร์โรและวัสดุ

                       นอนแมกเนตในขณะที่การกระเจิงของสปินภายในวัสดุจะมีค่าขึ้นอยู่กับค่าสปินโพลาไรเซชัน(spinpo-
                       larisation) ซึ่งเป็นคุณสมบัติการส่งผ่านสปินที่แสดงถึงความสามารถในการเหนี่ยวนำทิศทางของกระ-

                       แสสปินที่เคลื่อนที่ผ่านวัสดุ ค่าความนำไฟฟ้าของวัสดุแม่เหล็กเฟอร์โรสามารถอธิบายได้ด้วยโครงสร้าง

                       แถบพลังงาน โดยคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กของวัสดุแม่เหล็กเฟอร์โรจะมีค่าขึ้นอยู่กับการจัดเรียง

                       อิเล็กตรอนภายในแถบพลังงาน d ซึ่งมีการแยกเป็นแถบพลังงานของสปินขึ้นและสปินลง แถบพลังงาน
                       ของสปินขึ้นจะถูกเติมเต็ม (fully occupied) ในขณะที่แถบพลังงานของสปินลงยังคงมีบางส่วนที่ยัง
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23