Page 36 - Spin Transport and Spintronics
P. 36

1.3 การส่งผ่านสปินและประจุของอิเล็กตรอน                                           37



                       จากสมการที่ (1.15) นำมาพิจารณาความสัมพันธ์ทฤษฎีไดเวอร์เจนส์จะได้ว่า

                                                    I              Z
                                                       j c · dΩ =     ∇ · j c dv
                                                     Ω              V
                       นำสมการข้างต้นไปแทนในสมการที่ (1.16) จะได้สมการความต่อเนื่องของประจุดังนี้


                                                                                                      (1.17)
                                                            ˙ ρ = −∇ · j c

                       กระแสสปินซึ่งเกิดจากโมเมนตัมเชิงมุมซึ่งเป็นผลจากการเกิดพลวัตของแมกนีไทเซชัน เป็นแนวคิดหลัก
                       ที่สำคัญต่อการออกแบบอุปกรณ์สปินทรอนิกส์ ในการพิจารณากระแสสปินสามารถทำได้เช่นเดียวกับ

                       การพิจารณากระแสไฟฟ้าหรือกระแสประจุ โดยอาศัยกฎการอนุรักษ์โมเมนตัมเชิงมุม ซึ่งกรณีที่มีการ

                       อนุรักษ์แบบสมบูรณ์จะมีสมการความต่อเนื่องของกระแสสปินดังนี้
                                                        dM
                                                               ˙
                                                            = M = −∇ · j s                            (1.18)
                                                         dt
                       เมื่อ M คือแมกนีไทเซชัน และ j s คือความหนาแน่นของกระแสสปิน

                             โดยทั่วไปสมการความต่อเนื่องของสปินจะถูกนำมาใช้เป็นเงื่อนไขขอบเขตในการพิจารณาการ

                       ส่งผ่านของสปินในโครงสร้างวัสดุต่างๆ ที่เป็นไปตามกฏการอนุรักษ์โมเมนตัม อย่างไรก็ตามโมเมนตัม

                       เชิงมุมจะไม่เกิดการอนุรักษ์แบบสมบูรณ์เนื่องจากผลของการกลับทิศทางหรือการคลายตัวของสปิน
                       ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับแต่งสมการความต่อเนื่องของกระแสสปินโดยทำการเพิ่มพจน์ของโมเมนตัม

                       เชิงมุมที่ไม่มีการอนุรักษ์ (non-conservation of the spin angular momentum หรือ Tnon ) เพิ่ม

                       เติมดังนี้
                                                        dM
                                                            = −∇j s + Tnon                            (1.19)
                                                         dt
                       ซึ่งโมเมนตัมเชิงมุมที่ไม่มีการอนุรักษ์สามารถพิจารณาได้จากความเบี่ยงเบนทิศทางของแมกนีไทเซชัน
                       เมื่อเทียบกับค่าที่สภาวะสมดุล (Meq) ต่อระยะเวลาที่ใช้ในการกลับทิศทาง (spin-flip relaxation time

                       หรือ τ ) ดังนี้
                            sf
                                                                (M − Meq )
                                                       Tnon = −                                       (1.20)
                                                                    τ sf
                       จากที่ได้กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุปได้ว่าการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนนำไปสู่การเกิดกระแสไฟฟ้าและ

                       กระแสสปิน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ง่ายขึ้น แบบจำลองสองกระแสจะถูกนำมาใช้ในการพิจารณา

                       กระแสไฟฟ้าและกระแสสปิน เมื่ออิเล็กตรอนเกิดการเคลื่อนที่ เราสามารถจำแนกการไหลได้สองช่อง
                       คือ การไหลของสปินขึ้น (j ↑) และสปินลง (j ↓) ซึ่งในการคำนวณค่ากระแสไฟฟ้าสามารถหาได้จากผล

                       รวมของจำนวนอิเล็กตรอนโดยไม่คิดทิศทางของสปิน ในขณะที่กระแสสปินเป็นผลต่างระหว่างกระแสที่

                       เกิดจากอิเล็กตรอนที่มีสปินขึ้นกับอิเล็กตรอนที่มีสปินลง ซึ่งเป็นการพิจารณาผลของทิศทางสปินดังนี้


                                                                  ↑
                                                          j c = j + j  ↓
                                                          j s = j − j  ↓                              (1.21)
                                                                  ↑
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41