Page 71 - ปฎิบัติการชีววิทยา 1
P. 71
ปฏ บั ต การชี วว ทยา 1 |
ิ
ิ
ิ
วิวัฒนาการ
่
ี
บทปฏิบัติการท 5
วิวัฒนาการ (Evolution) (Evolution)
รศ. ดร. ไพโรจน์ ประมวล
ศาสตราจารย์ ดร.ไพโรจน์ ประมวล
่
ั
ิ
้
ู
่
่
การศึกษาววฒนาการมีความสําคัญอยางยงตอความรความเข้าใจในการเปลียนแปลงของ
ิ
่
้
ี
ั
่
่
ี
สรรพสิงบนโลกตงแตการกาเนดของสิงมีชวตถึงความหลากหลายทางชวภาพบนโลก โดยกลไกการ
ิ
่
ํ
ิ
ั
ิ
้
้
์
ิ
ิ
์
ววฒนาการอธบายไดดวยแนวคิดการเลือกโดยธรรมชาตของชารล ดารวน (Charles Darwin) ที ่
ิ
่
อธบายแนวคดผ่านทางหนงสือชอ “On the Origin of Species by Means of Natural
ั
ิ
ิ
ื
่
่
์
ี
ี
ิ
Selection” ซึงตพมพเผยแพรในป ค.ศ.1859
่
็
ิ
ั
ั
็
ิ
ั
่
ิ
ิ
ววฒนาการเป็นแนวคดทีไม่สลับซับซ้อนแตอยางไรกตามววฒนาการกเปนแนวคดทีคนมก
่
็
่
้
ั
ิ
ํ
ั
ั
เขาใจผิดโดยเฉพาะกลไกของกระบวนการการคดเลือกโดยธรรมชาติ ววฒนาการตามคาจากดความ
ํ
ี
่
่
่
ของดารวนหมายถึง Descent with modification นนคอการเปลยนแปลงทเกดขนระหว่างชวรน
ั
ั
่
ุ
ื
่
ึ
ิ
ี
้
์
ิ
ี
ั
่
่
การเปลียนแปลงมความหมายรวมถึงการเปลียนแปลงตงแตระดบโมเลกล กระบวนการภายในเซลล์
่
ั
้
ุ
่
ิ
์
่
ิ
ื
่
ึ
ู
ิ
ั
กระบวนการเมตาโบลิซึม รปรางสัณฐานวทยา รวมถงพฤตกรรมและปฏสัมพนธกบสิงมีชวตชนดอนๆ
ิ
ี
ั
ิ
่
ั
่
ุ
ุ
่
ื
ิ
เนองจากการเปลียนแปลงววฒนาการเป็นการเปลียนแปลงทถายทอดทางพนธกรรมจากรนสูรนดงนน
่
่
ั
่
่
ี
ั
ุ
้
ั
่
ิ
ั
ึ
้
่
้
้
ี
ิ
ู
รปแบบการเปลยนแปลงววฒนาการจงมีลักษณะคลายการแตกกงกานสาขาของต้นไม โดยแตละกง
่
ิ
่
่
ี
่
ี
่
ิ
ี
ื
เปรยบเหมอนสิงมีชวตชนดตางๆทเกดการเปลียนแปลงตามกาลเวลา ลักษณะการเปลียนแปลงน ี ้
่
่
่
ิ
ิ
้
ั
ุ
้
้
่
ี
้
ึ
่
ี
่
้
ั
่
ุ
ไดรบการถายทอดมาจากบรรพบรษทีเทยบไดกบลําตนของตนไม้ โดยการเปลยนแปลงทีเกิดขนจะมี
่
ั
สภาพแวดล้อมเปนตวกาหนดลักษณะทีมีความเหมาะสมในเวลานน ซึงนนคอกระบวนการคดเลือก
็
่
ั
ื
ั
้
่
ํ
ั
ิ
โดยธรรมชาต (natural selection)
ิ
์
ิ
้
ึ
ิ
ั
ิ
ั
่
ิ
ดารวนไดอธบายถงการววฒนาการและกลไกทีทําให้เกดกระบวนการววฒนาการรวมถึง
ั
้
ิ
ั
่
ตวอยางของววฒนาการทังจากธรรมชาตและการทดลอง ดาร์วนใชเวลากวา 30 ปในการรวบรวม
้
ี
ิ
ิ
่
้
่
ึ
ขอมูล ศกษาค้นควาเอกสารตาราต่างๆรวมถงการทําการทดลองเพอหาคาอธบายการเปลียนแปลง
้
่
ื
ิ
ํ
ํ
ึ
ั
่
ี
ิ
ุ
ี
่
ิ
ิ
ี
ี
้
ั
ิ
ของสิงมีชวต จดสําคญททําใหดารวนเกิดแนวคิดเรองการเปลยนแปลงววฒนาการของสิงมีชวตมาจาก
์
ื
่
่
่
ี
ื
ิ
ิ
่
การเดนทางสํารวจกับเรอ HMS Beagle ในชวงป ค.ศ.1832 – 1837 จากการเดนทางสํารวจรอบโลก
กบเรอดงกล่าวทําใหดารวนสังเกตเหนความแปรผันของสงมชวต เชน ตนไม้ในแตละภมิภาคของโลก
้
่
ี
ิ
ี
้
่
ั
ิ
ั
ู
็
ื
์
่
ิ
ิ
ไมเหมอนกน หรอ นกฟนส์ในแตละเกาะของหมเกาะกาลาปากอสมความแตกตางกน เปนตน จาก
ั
่
ี
่
ื
้
่
็
่
ื
ั
ู
ื
่
ิ
ี
ิ
่
ิ
์
่
ความแปรผนเหลานทําใหดารวนเกิดความเชอเรองการเปลยนแปลงของสิงมีชวต และสิงทีดาร์วนพยา
่
่
ั
่
้
ี
ี
้
่
ื
ิ
่
้
ํ
็
้
ี
่
้
้
ยามหาคาอธบายใหไดกคอการเปลยนแปลงทีเกดขนนนเปนผลมาจากอะไร และทําไมความแปรผัน
ื
ึ
ิ
็
ั
ของสิงมีชวตมกมความสอดคลองเหมาะสมกบสภาพแวดล้อมทีสิงมีชีวิตนันๆอยูอาศย ในระหว่างที ่
่
้
ั
้
่
่
ิ
ั
ี
่
ั
ี
ื
่
ั
้
่
้
้
พยายามคนควาหาขอมูลเพอตอบคําถามดงกลาวดาร์วนไดอานบทความของมัลทส (Malthus) เรอง
ั
ื
่
่
ิ
้
ั
ั
ิ
ั
่
่
่
“Essay on population” ซึงมีใจความสําคญคืออตราการเพมของทรพยากร เชน อาหาร มีอตรา
ั
ื
ิ
การเพิมทีชากวาประชากรของสิงมีชวต ดงนนสิงมีชวตตองมีการแกงแยงทรพยากรดงกลาวเพอเอาตว
่
่
ั
่
้
่
ั
ี
้
ี
่
่
่
ิ
่
ั
ั
ั
่
้
ื
์
่
่
ิ
้
ิ
ี
ี
ุ
่
ี
รอด ซึงเหตการณนเรยกวา “Struggle for existence” เนองจากประชากรของสงมีชวตมีความแปร
่
่
่
ั
ื
ผันทําให้โอกาสหรอศักยภาพในการแกงแยงแตกตางกนออกไปโดยลักษณะทีมีความเหมาะสมกับ
่
่
ิ
ํ
สภาพแวดลอมมากกวาจะมจานวนเพมขนในประชากรมากขึนเรอยๆเนืองจากสามารถให้กาเนด
ี
่
ื
้
ึ
้
่
่
่
ิ
ํ
้
้
ั
่
ู
้
่
ลูกหลานไดมากวารปแบบทีมีความเหมาะสมกบสภาพแวดล้อมนอยกวา และเมอเวลาผ่านไป
่
ื
่
ั
สภาพแวดล้อมเปลยนแปลงไปลกษณะทีมีความแปรผันในประชากรบางลกษณะทีมีความเหมาะสม
่
่
ั
ี
่
ปฏบัตการท 5 ววฒนาการ (Evolution)
ิ
ี
่
ั
ิ
ิ