Page 218 - ebook.msu.ac.th
P. 218
218 ณรงค์ศักดิ์ ราวะรินทร์
๕/๒๗/๑ ซ้ าให้ข้าโอกาสไว้กับแลเขดดินแต่มาก (ปาก) หว้ายปา-
๘๓๙
เซือม นั้น แก่พระมหาธาตุเจ้าแล้วจีงสระเด็ดจจขึ้นเมือ
เจ้าจักอยู่พอมาปี ๑ พันเฮือนหิน จีงขืนนา (ขึ้นมา) หัททบาส
พระโพธิสาราสเจ้า มีอาสว่า กูหากให้เขือพี่น้องเป็นข้อยพระมหาธาตุเจ้าแล
จักใช้สอยด้วยกานอื่นบ่เป็น คันว่ามักมา ก็อยู่ตามเฮื่อแฮม เถิงกาลออกวัสสา
สังขาน จีงน าเคื่องสักกะละบูชาแลเคื่องกู ไปเป็นปักกติเทิน
๘๔๐
ยามนั้นข่าชะเองผู้พี่จีงแต่งคนส่งสิบ เมืออยู่ดอมสืบหน้าตามหลัง
๘๔๑
คันพันเฮือนหินจีงแต่งคนฝูงเทียวส่งข้าวกกหมกปรา ๓ ฮ้อย ๓
สิบคน
ยามนั้นขุนกินเมืองทั้งมวร จีงสงสัยแก่พันเฮือนหิน ให้แต่งใส่
๘๔๒
เวียกซารึม (ลึม?) ๓ สิบด้ าขวาน ก็ จีงได้เฮ็ดซารึมมาแต่นั้นแล
บ้านเมืองเซ่น พระยาเชยยะเสฏฐาธิราสเจ้า เห็นนิทานอันนี้ ก็จีงส้าง
๘๔๓
เจ ๕/๒๗/๒ (น) ติยะสีธัมมะอะโสก มวรนึงส้าง วัดปร่าสะรัสสี
“...ขึ้นวัดหนึ่ง สร้างอูปมุงโลมพระธาตุอรหันต์ ที่วัดป่ามหาพุทธวงสา
อีกแห่งหนึ่ง สร้างวัดป่าพันทองแห่งหนึ่ง สร้างวัดหนองยางค าแห่งหนึ่ง แล้วไป
๘๓๙
ฉบับของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ว่า ห้วยปากเซ
๘๔๐
ฉบับของหอสมุดแห่งชาติและฉบับของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ว่า ๓๐
๘๔๑
ข้าวกกหมกปลา-ผู้ปริวรรต
๘๔๒
หาความหมายยังไม่พบ ที่ใกล้เคียงคือ ลึม ที่เรียกกระไต้มัดรวมกัน ๑๐ อัน ว่ากระไต้หรือ
กระบองหนึ่งลืม
๘๔๓
ฉบับของหอสมุดแห่งชาติ ว่า วัดป่าฤาษีสังหร, ฉบับของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ว่า วัดป่ารัส
สีสิงหอน