Page 60 - ปฎิบัติการชีววิทยา 1
P. 60
์
ี
ี
ิ
ปฏบัติการชววิทยา 1 [Biology Laboratory I] ภาควิชาชววิทยา คณะวิทยาศาสตร มมส.
48 อาจารย์วันชัย สังฆ์สุข
42 | ปฏ บั ต การชี วว ทยา 1
ิ
ิ
ิ
้
้
ั
้
ึ
้
์
้
่
์
2. ความเข้มขนของเอนไซม; การเพมความเข้มขนของเอนไซมใหมากขนจะทําใหอตราเร็ว
ิ
ู
ิ
ุ
ั
่
้
ิ
ของปฏกรยาเพมขน เมือระบบมีความเข้มขนของสารตงตน คาพเอช อณหภมิ และบฟเฟอรทีใชคงที
์
้
้
ี
่
้
้
่
ิ
่
ิ
ึ
่
ั
3. อณหภมิ; อตราเร็วของปฏกรยาทีเรงดวยเอนไซม์จะผันแปรตามอุณหภมิ เพราะอณหภมิมี
ิ
ิ
ิ
่
้
ุ
ู
ู
ั
่
ู
ุ
ิ
ุ
ู
่
่
ี
่
ํ
้
ผลตอความคงตัวของเอนไซม ์ อณหภมิทีสูงเกนไปจะทาใหโปรตนเสียสภาพ ซึงจะส่งผลให้
ความสามารถในการเรงปฏกรยาของเอนไซม์สูญเสียไป เอนไซมส่วนใหญ่จะมีความคงตวอยในชวง
่
ู
ิ
ิ
์
ิ
่
ั
่
ิ
20-35 องศาเซลเซยส และเอนไซม์แตละชนดจะมีคาอณหภมิทีเหมาะสม (optimum temperature)
่
ุ
ี
ู
่
่
สําหรับการทํางาน
่
4. คาพเอช (pH); มีผลตอการทํางานของเอนไซม์ เนองจากเอนไซม์เปนโปรตน การ
ี
ี
็
่
ื
่
่
ี
เปลียนแปลงค่าพเอชของสารละลายโปรตนจะมีผลตอประจุทีเกดขึนบนโมเลกลของโปรตน โดย
้
ิ
ุ
่
่
ี
ี
ํ
ิ
่
เฉพาะทีบรเวณเร่ง คาพเอชทเหมาะสมสาหรับเรงปฏกรยาใหไดความเร็วสูงสุดเสมอของเอนไซมเพป
ิ
์
้
ี
่
่
ิ
่
ิ
้
ี
่
่
ซิน และ ทรพซิน มีคาเท่ากบ 2 และ 8 ตามลาดบ หากคาพเอชของสารละลายสูงหรอตากวาคาพเอช
ํ
ื
ั
ํ
ี
่
่
ี
ั
ิ
่
ิ
ิ
ิ
้
ทีเหมาะสม จะทําใหความเร็วของปฏกรยาทีเกดขึนช้าลง แต่มีเอนไซม์บางชนิดมีคาพีเอชทเหมาะสม
่
่
่
ิ
ี
่
้
็
เปนชวงกวาง เชน เอนไซมคะตะเลสสามารถเรงปฏกรยาไดในชวงพเอช 3-10 เปนตน
่
่
ิ
้
ิ
้
ิ
่
็
่
ี
้
์
ํ
้
้
5. Water activity (ความเข้มขนของนา); การทางานของเอนไซมจะเกิดขึนเมืออยในภาวะที ่
์
้
ํ
่
่
ู
้
่
้
ิ
็
์
้
ํ
เปนสารละลายในน้า ทังทีเกดขึนภายในเซลล (in vivo) และในหลอดทดลอง (in vitro) ดงนน ความ
ั
ั
็
้
้
ั
ิ
ั
่
่
ํ
้
้
ิ
ั
ิ
ั
่
่
เขมขนของนาจึงเปนปจจยสําคญตออตราการเร็วของปฏกรยาทีเกดขึน ตวอยางเชน หากคาความ
่
ิ
ั
ิ
่
์
ิ
ิ
้
่
้
ื
้
้
ั
ํ
เขมขนของนาเท่ากบ 0.35 หรอนอยกวา 1% ความสามารถในการเรงปฏกรยาของเอนไซมฟอสฟา
ิ
้
ุ
ิ
เตสตอเลซิทินจะหยด หากคาความเข้มขนของนามากกวา 0.35 ความสามารถในการเรงปฏกรยาของ
่
ิ
่
่
่
ํ
้
ี
ิ
ั
่
ึ
้
ุ
์
ึ
ั
้
่
้
ั
เอนไซมบตา-อะไมเลสเพมขนจนถงความเข้มขนของนาเท่ากบ 0.9 ดงนนจงพอสรปไดวาหากมี
้
ํ
้
ึ
ิ
ํ
้
ิ
่
้
ิ
่
ิ
ั
้
ปรมาณนานอยกวา 1-2 เปอรเซ็นต จะยบยงความสามารถในการเรงปฏกรยาของเอนไซมได ้
์
์
ั
์
ั
ั
ิ
็
้
่
็
ี
่
ิ
ั
ิ
์
ั
่
6. ตวยบยง (Inhibitor); เปนสารประกอบทเมือเตมลงไปในปฏกรยาทีมีเอนไซมเปนตวเรง ่
ิ
้
แล้วทําใหอตราเร็วของปฏกรยาชาลง ตวยบยงอาจทาปฏกรยากบเอนไซมทีบรเวณจับ (binding site)
่
์
ั
ั
ิ
ิ
ิ
ิ
้
ิ
ิ
ิ
ั
ํ
ั
ั
้
หรอบรเวณเร่งแลวทําใหสารตังตนไม่สามารถจบกบเอนไซมไดเหมือนเดิม
ื
ิ
้
้
้
้
้
์
ั
ั
ุ
วตถประสงค์
ั
ื
ึ
่
1. เพอศกษาความจาเพาะของเอนไซมตอสับสเตรต
่
ํ
์
ึ
2. เพอศกษาอทธพลตาง ๆ ตอการทํางานของเอนไซม์
ื
่
่
ิ
่
ิ
วสดและอปกรณ์
ั
ุ
ุ
การเตรียมเอนไซม tyrosinase
์
ํ
้
้
้
ั
์
่
ั
เอนไซม tyrosinase สามารถเตรียมไดจากหวมันฝรงบดกับนาตามขันตอนดงน ้ ี
ั
ี
้
ื
็
ั
ื
ั
่
้
1. นามนฝรงทีแชเยนไว (ในตเยนหรอถงนาแขง) มาบดใหละเอยดดวยเครองบด
่
ํ
้
่
็
่
ั
้
็
ู
ํ
้
์
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ภาควชาชววทยา คณะวทยาศาสตร มหาวทยาลัยมหาสารคาม