Page 71 - ebook.msu.ac.th
P. 71
และอื่นๆร่วมกัน เมื่อพ้นช่วงเวลาการทำพิธีกรรมแล้ว ผามจะถูกรื้อทิ้งเหลือแต่ลานดินและหลักบือบ้าน เมื่อมี
การสร้างผามถาวรที่เรียกว่า “ศาลากลางบ้าน” ภายหลังแล้วจึงสามารถใช้ประโยชน์ทั้งทำพิธีกรรม และใช้
เป็นที่ทำงานนั่งเล่นในยามว่างเหมือนเป็น “ศาลาประชาคม” ของชุมชนหมู่บ้านโดยปริยาย ภายหลังได้มี
การปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่เป็นสถานที่ประชุมชาวบ้านของหน่วยงานรัฐและเอกชนบ้าง หลายแห่งใช้
ประโยชน์ใหม่เป็นที่ตั้งสหกรณ์ร้านค้าและอื่นๆ จากองค์กรพัฒนาต่างๆ
ตั้งมุงคุนเบิกบ้านเลี้ยงผีปู่ตา
ก่อนเริ่มพิธีซำฮะ-เบิกบ้านในวันแรกกวานจ้ำ (เฒ่ากวาน/เฒ่าจ้ำ) ซึ่งเป็นผู้นำในการทำพิธีกรรมจะเอา
ขัน ๕ (เทียน ๕ คู่ และดอกไม้ ๕ คู่) ไปบอกกล่าวเชิญเจ้าปู่มาร่วมพิธีเหมือนเป็นประธานพิธีให้เป็นเป็นมงคล
กับงานด้วยหวังความสงบสุขอุดมสมบูรณ์ โดยกวานจ้ำจะนำขันกะยอง (กะหย่อง) จากศาลปู่ตามาตั้งไว้ที่หลัก
บือบ้านเป็นสัญลักษณ์เจ้าปู่ และเพื่อจะได้ใช้วางเครื่องบูชาที่ชาวบ้านเตรียมไปร่วมพิธีด้วย
ตั้งมุงคุนด้วยการนิมนต์พระสวดเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นมงคลในตอนเย็น-ค่ำเป็น เวลา ๓
วันติดต่อกัน โดยผ่านฝ้ายสายสิญจน์ที่โยงจากหลักบือบ้านไปยังบ้านเรือนทุกหลังคาเรือน เพื่อเป็นสิริมงคล
ร่วมกัน รุ่งเช้าวันที่สี่ชาวบ้านจะนำเครื่องพิธีที่เตรียมไว้ไปเข้าร่วมพิธี เช่น กระทงกาบกล้วยใส่อาหารการกินทั้ง
คาว-หวาน และอื่นๆ อย่างละเล็กละน้อย มี ปลาแดก พริก ข้าว เกลือ ขันน้ำทำน้ำมนต์ หิน-กรวด-ทราย-
ข้าวสาร ฝ้ายไน-ไหมหลอด, ฝ้ายผูกแขน ฯลฯ ทำพิธีถวายสังฆทาน พระฉันจังหัน รับพร กรวดน้ำ
เสร็จพิธีแล้วกวานจ้ำจะบอกกล่าวเชิญปู่ตากลับหอ ด้วยการนำขันกะยองกลับไปไว้บนศาลปู่ตา จากนั้น
จึงเป็นพิธีเลี้ยงผีปู่ตาและเสี่ยงทายฟ้าฝนและอื่นๆ ด้วยวิธีการแตกต่างกันไป เช่นจุดบั้งไปถวายหรือบั้งไฟ
เบิกบ้าน (บั้งไฟเสี่ยงทาย) ถอดคางไก่ หรือแทกวัดไม้วา เป็นต้น โดยเสี่ยงทายฟ้าฝนในปีนั้นเป็นหลักก่อน
แต่บางแห่งก็จะจัดเป็น ๓ ชุด คือ เสี่ยงฝน เสี่ยงคน และเสี่ยงควาย/สัตว์เลี้ยง
ในพิธีซำฮะ-เบิกบ้านนี้ หลายหมู่บ้านชาวบ้านมักจะนำหิน กรวด ทราย และข้าวสาร ที่เอาเข้าร่วม
พิธีมงคลไปหว่านตามบ้านเรือนของตนหรือเพื่อนบ้านบ้าง โดยจะหว่านตามชายคาเรือนรอบๆ บริเวณบ้าน
ชานเรือน นัยว่าเป็นการปัดรังควานเสนียดจัญไร ผีร้ายหรือสิ่งอันอัปมงคลทั้งหลายให้ออกไปให้พ้นจากบ้านเรือน
และกาย-ใจ ของคน และสัตว์เลี้ยงตามความเชื่อ
บางรายก็จะเอาหิน กรวด ทราย และข้าวสาร วางโรยอัดประตูรั้วทางเข้าบ้านเรือน ด้วยความเชื่อว่า
เป็นการป้องกันภัยพิบัติ สิ่งอัปมงคลที่มองไม่เห็นจากภายนอกไม่ให้เข้ามาสู่ครอบครัวได้ จะทำให้ทุกชีวิตใน
ครอบครัวมีแต่ความร่มเย็นผาสุก
เลี้ยงผีตาแฮก ปักกกแฮก
เสร็จงานบุญซำฮะ-เบิกบ้านที่หลักบือบ้านและพิธีเลี้ยงผีปู่ตาที่ศาลในดอนปู่ตาแล้วต่อจากนั้นคือ
เวลาที่ทุกคนเริ่มลงทำนาตามฤดูกาลปกติได้แล้วแต่ใครจะเริ่มลงนากันวันไหนนั้นขึ้นอยู่กับน้ำฝนตามธรรมชาติ
และความเชื่อเรื่องผีตาแฮก/ผีอาฮักนาด้วย เพราะเชื่อว่าเป็นผีที่อยู่ประจำนา เป็นผีรักษานาโดยเจ้าของนาจะตั้ง
ศาลไว้ที่ใดที่หนึ่งในนาที่เห็นว่าน้ำท่วมไม่ถึงที่ตรงนี้แหละที่เจ้าของนาจะต้องทำพิธีเลี้ยงผีตาแฮกก่อนลงทำนา
ดังคำกล่าวกันมาว่า “ลงให้เลี้ยง”
69