Page 146 - ebook.msu.ac.th
P. 146
146 ณรงค์ศักดิ์ ราวะรินทร์
๑๑. เทวดาแลพระยานาคปูก (ปลูก) บุรีจันให้เป็นใหญ่
๓/๒๔/๑ ยามนั้นเมืองสุวัณณภูมมเป็นเมืองท้าวค าบาง อันตั้งเป็นเมือง
ที่ห้วยเก้าคดเก้าเลี้ยวนั้นแล ยังมีลูกสาวผู้นึงชื่อว่าอินทสว่างลงลอด (ฮอด)
เมื่อนาง (เทวีท้าว) ค าบาง ผู้เป็นแม่ธรงคัภนั้น ฝันว่าอินทาให้
ดอกนิลลบล นางเอาแล้ว ก็ซัดลงในสระ เล่าเกิดเป็น ๒ ดอกบานงาม ทั่วสระ
อันนั้น เมื่อประสูดออกแล้ว ใช้ชื่อว่า อินทสว่างลงลอด หั้นแล
เล่ายัง ๓/๒๔/๒ (เตา) อรหันตาเจ้า ๒ อง ลงจากเมืองราชคึหพุ้นมา
ตน ๑ ชื่อว่า มหาพุทธวงสา อยู่ที่แคมน ้าบึงหั้น
ตนนึง ชื่อว่า มหาสัชชดี อยู่ ป่าโพนเหนือ เพียงหัวน ้าบึงหั้นแล
๖๒๐
ยังมีกระไทชายผู้ ๑ ปูมใหย่ ประกอบด้วยใจใส่ในกุสละบุรยิ่งนัก
๖๒๑
เฮือนอยู่แคมน้ า ปากฮ่องแพ หนองคันแทเสื้อน้ า อันมาจุน้ าบึงนั้น
๖๒๒
ก็อุปัฏฐากแก่อรหันตาทั้ง ๒ ด้วยข้าวบิณฑิบาส สังฆพัด เป็นปักกัตติ
อรหันตาเจ้าว่าปูมหลวงพ้าเพ็ด (บ าเพ็ญ) บุรก็ซ้ าใส่ชื่อให้ปรากดว่า
บุรีอว้ายลว้าย หั้นแล
๖๒๓
คนทั้งหลาย ฝูงเป็นวงสาแลอยู่ฮ่วมบ้าน ก็เอาเป็น คูบาอาจาน
แก่เขา บุรีอว้ายลว้าย สอนสาตรสิน อันกท านาปีนาแซงคนทั้งหลาย
เมื่อข้าวแล้วชวนคนทั้งหลาย ให้ใส่ข้าวบิณฑิบาสแล ๖๒๔ ๔/๑/๑ ข้าวสังฆพัด
เป็นปักกัตติบ่ขาด
๖๒๐
ท้องใหญ่-ผู้ปริวรรต
๖๒๑
ฉบับของหอสมุดแห่งชาติ (๒๔๘๓) และฉบับของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (๒๕๕๓)
กล่าวว่า สะแก
๖๒๒
สังฆภัต-ผู้ปริวรรต
๖๒๓
ครูบาอาจารย์-ผู้ปริวรรต
๖๒๔
จบผูกที่ ๓