Page 154 - ebook.msu.ac.th
P. 154

154             ณรงค์ศักดิ์ ราวะรินทร์




                       จีงให้นางมัจสะนารี น าดอกไม้  เอาบุรีอว้ายลว้ายมา
                       ยามนั้นบุรีไปช าระน้ าสุคันทนาคนิมิดแล้ว  ก็เช็ดด้วยผ้าอันนั้น
                                                      ๖๔๙
               คีงก็ลวดขาวงามแล้วแล ทาท้องใหย่นักก็ แวบ  กลมงาม ดังขาธนูอินทานั้น
               แล แล้วทาน้ ามันแล้ว  จีงนุ่งเสื้อผ้าใส่สังวาน วันลักคังแล ถือแหวนแลถือต้าง

               ใส่เซ็ด (เซิด) หัว จีงเอาดอกไม้เกี ยวข้อมือ  เล่าแยงแว่น แล้วก็แย้มหัวหั้นแล
                            ๖๕๐
               จีง พายคันไชสี   ใส่ สีเกิบตีนค้า
                       ยามนั้นนางเทวดามัจสานารีนิมิด  เอาวีค ายื่นให้ เจ้าบุรีรับเอาแล้ว  ก็

               ลวดนอนหลับอยู่ นางเทวดามัจสานารี  ก็โจมเอามาทอดไว้ในกลางปราสาท
               ดอมนางอินทสว่าง ๔/๖/๒ (กฺรู) (ลง) ลอด  ก็ซะดุ้งตื่น  สุคันทะกิ่นจันมาถืกต้อง
               นาง  ลวดมีค าฮักค าแพงผัวเมียกันอยู่หั้น ก็มีแล
                       ยามนั้นคนทั้งหลายก็ตื่นชื่น (ขึ้น) เห็นแล้ว  ก็ลวดเป็นยิ่งอัจสะจันยิ่ง

               นัก  จีงเมือไหว้ท้าวค าบาง นางผู้แม่  มาเห็นแล้วก็ชมชื่นยินดี  จีงเวนบ้านเมือง
                                                                ๖๕๓
                                  ๖๕๑
                                          ๖๕๒
               ให้แล้ว จีงพ้อมกัน เบิก  บาสี  ว่า เจ้าบุรีจันทลูบลาง   ผัวนางอินท-
               สว่างลงลอดลูกท้าวค าบาง ก็มีหั้นแล

                                                                             ๖๕๔
                       ยามนั้นพระยานาค  ไปควัดน้ ามังคละไว้ในห้วย เมื่อนั้น ทะลิน
               แล้ว จีงมาบอกเทวดาอินทสิริเจียมบางว่า  ให้บอกแก่เทวดาตน ชื่อว่า





               ๖๔๙
                   หมายถึง ยุบ, แฟบ
               ๖๕๐
                   หมายถึง ขรรค์ไชยศรี
               ๖๕๑
                    หมายถึง เผยออก, เปิดออก  มีใช้ในบริบทอื่นว่า โบก เช่น ลมเบิกไม้ คือ ลมพัดโบกใบไม้,
               เบิกสะเพา คือ ลมตะเภาพัด เพื่อพาเรือส าเภาไปค้าขาย
               ๖๕๒
                   บาศรี คือ บา หมายถึง ผู้ชาย, ศรี หมายถึง ผู้หญิง การที่ ชาย หญิง แต่งงานกันเรียก บาศรี
               ๖๕๓
                  ฉบับของหอสมุดแห่งชาติ (๒๔๘๓) และฉบับของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (๒๕๕๓)
               กล่าวว่า บุรีจัน
               ๖๕๔
                  ฉบับของหอสมุดแห่งชาติ (๒๔๘๓)  ว่า หัวเมืองสองลิน, ฉบับของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
               (๒๕๕๓)  ว่า หัวเมืองสองรินสองราง
   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159