Page 60 - ebook.msu.ac.th
P. 60
60 ณรงค์ศักดิ์ ราวะรินทร์
แต่นั้นอัปปสัทธามิจสาทิฏฐิกัมมระมึนทึนจักเกิดมีในเมืองบ้านนั้นหั้น
แล
ยังมีวัสสาพาละ (กาละ) อันนึงเทวดาอารักข์ มเหสักขาทั้งหลายฝูง
ฮักสาเจ้าสุริยกุมมาน เห็นยังสังกาสพ้อมทั้งมัตตา (มิตตา) มีชื่อว่า
๑๙๖
ปุณณสหัสส วุฒิมังคละสังกราส อันควรแก่เจ้าสุริยกุมมานชาตติอันถ้วน
๓ ในที่นี้แล
๑๙๗
ดูราอานนเทวดาทั้งหลายเห็นรมเพิง ดังกล่าวแล้วนี้จงให้ได้เถิงยัง
ราชสมบัตติเป็น ๑/๑๔/๒ (ขร) พระยาหั้นแล ยามนั้นเทวดาฝูงฮักสายังภูมมเสตร
สัด (เศวตฉัตร) แลฮักสาพุทธสาสนาแลเทวดาฝูงอยู่ในอาณาเขดบ้านเมือง
ทั้งมวรสังกาสได้แสนสามหมื่นสามพันฮ้อยสามสิบเก้าตนจักพ้อมกันให้สาธุ
กานส่งข่าวสืบ ๆ กันไปด้วยค า
ดูราเจ้าทั้งหลาย เจ้าสุริยกุมมานจักเสวยราส เป็นใหย่แก่บ้านเมือง
ในจันทบุรีแล้วจงลงมาชุมนุมกันปงราชนุตามค ามักแห่งเฮาทั้งหลายเทิน
เทวดาทั้งหลายกล่าวดังนี้แล้วจีงลงมาชุมนุมกันในดอยเขาควายนั้น
๑๙๘
หลิ่นมโหสบ ปัตติพบกัน ๓ วัน ๓ คืนจักพ้อมกันปงราชนามว่า
พระยาสุริยวงสาไชยจักกธัมมิกกราชาเสฏฐาธิราสดังนี้ปางนั้นหั้นแล
ดูราอานนพระยาตนนั้นได้พ้าเพ็งทานสีน บารมีอันมากจักเป็นพระยา
ตนประเสิดยิ่งกว่าท้าวพระยาทั้งหลายจักมีอายุหมั้นยืน ๑/๑๕/๑ โชตนาพุทธ
๑๙๖
ตามข้อสันนิษฐานของ พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ (๒๕๒๑ : ๑๒-๑๕) ที่ว่า ตรงกับปีขึ้น
ครองราชย์ของพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชในต านานอุรังคธาตุ หรือต านานพระธาตุพนม ซึ่งได้
กล่าวไว้อย่างชัดเจน แต่ที่ถูกมองข้ามไปคือ ในต านานอุรังคธาตุได้ระบุปี ที่เขียนเป็นภาษาบาลีว่า
“ปุณณสหัสส วุฒิมังคละสังกราช” ฝูงเทวดาอารักษ์จึงอัญเชิญเจ้าสุริยกุมารขึ้นเสวยราชสมบัติ
ศักราชที่ผูกประโยคเป็นภาษาบาลีนี้ คือ พ.ศ. ๑๐๐๐ นั่นเอง (ค าว่า “สหัสส” มีความหมายถึง
๑,๐๐๐)
๑๙๗
หมายถึง ร าพึง
๑๙๘
มหรสพ-ผู้ปริวรรต