Page 113 - ปฏิบัติการ Lab Bilology II
P. 113

ี�
                                                                             ี
                                                             ิ
                                                         บทปฏบัติการท 9  การแยกสกัดดเอ็นเอและพันธุวิศวกรรม
                                                          DNA Extraction and Genetic Engineering  105
                                                                                         ่
                             ี
                                                                                                  ึ
                                                                                       ่
                                                                                ่
                                                                                         ี
                            ี
                                                                   ั
                     ปจจัยท่มผลกระทบตอคุณภาพของดีเอ็นเอ การแยกสกดดีเอ็นเอจากสิงมีชีวิตสิงทตองคํานึงถง
                                                                    ี
                                                                                       
                                                                                       
                                                            ี
                                                           ี่
                                                                     
             เรื่องของความบริสุทธิ์ของดีเอ็นเอที่เตรียมได โดยดเอนเอทมคณภาพดตองปราศจากการปนเปอนของโมเลกล
                                                              ุ
                                                       ็
                                                     ี
                                                
                                                                                                  ุ
                                                                 ่
                                                              
                                                                 ึ
                                                                                            ์
                                       ั
                                                        
             อื่นที่ไมตองการ เชน โปรตีน ไขมน และโพลีแซคคาไรด เปนตน ซงวิธีในการตรวจสอบความบริสุทธิของดีเอน
                                                                                                  ็
                                                ั
                                                                                               ่
                       ิ
             เอสามารถพจารณาไดจากการเปรียบเทยบอตราสวนของการดดกลืนแสงของกรดนิวคลีอกกับโปรตนทความ
                                             ี
                                                                                            ี
                               
                                                                                    ิ
                                                                                               ี
                                                               ู
                                                       ี
                                                      ี
                                                   ิ
                                                      ่
                                                                 ์
                                                                            ี
                                                                           
                                                                             
                                                                                  ั
                                                                                ี
                                                                    
             ยาวคลื่น 260/280  นาโนเมตร โดยกรดนิวคลีอกทมความบริสุทธิอยูในเกณฑดตองมอตราสวนดังกลาวอยาง
                                            
                                         ่
                                                                    ็
                               ี
                                                                                               
                                                                                       ็
                                                                                     ี
                                                    ึ
                                                                                                 
                                           ่
                                                ํ
                  
                     ั
                                                                  ี
                                           ี
                                                                         ึ
                                                                         ่
             นอยเทากบ 1.8 และอกประการหนึงทตองคานึงถง คือ ขนาดของดเอนเอ ซงในการเตรียมดเอนเอจําเปนตอง
                                                                                         ี
                                         
             ทําดวยความนิมนวล เบามือ เพ่อปองกันการฉีกขาดของโมเลกุลดีเอนเอโดยเฉพาะดเอนเอท่มลักษณะเปน
                                       ื
                
                                                                                   ็
                                                                                 ี
                                                                    ็
                                                                                                  
                                                                                        ี
                         ่
             เกลียวคูสายยาว
                     ขั้นตอนของการแยกสกัดดีเอ็นเอ ในการสกัดดีเอ็นเอมักประกอบดวยขั้นตอนดังนี้ คือ
                                                                                ่
                                                                   
                       1.  การทาใหเซลลแตก สามารถทาไดโดยวิธีกล เชน ดวยการบดเนื้อเยือรวมกับไนโตรเจนเหลว
                                                     
                                                  ํ
                               ํ
                                                                                           
                                                                   
                                                         ี
                                                                     ั
                                                
                 
                         ี
                                    ํ
             ใหเปนผงละเอยด หรือการทาใหเซลลแตกดวยสารเคมหรือเอนไซม ตวอยางเชน ยอยผนังเซลลดวยเอนไซม  
             เชน lysozyme, cellulose, chitinase
                                                                              ิ้
                       2.  ขั้นตอนของการกําจัดเศษเซลลและการกําจัดโปรตีนที่ไมตองการทง สามารถทําไดโดยการทํา
             ใหโปรตีนเสียสภาพธรรมชาตโดยการเตมสารทเปน ionic detergent เชน sodium dodecyl sulfate (SDS)
                                                  ี่
                                            ิ
                                    ิ
               ื
                                                                                               
               ่
                  
                                                                   ํ
                                                                                     ิ
             เพอเปนการลดแรงดงดูดระหวางโปรตีนและกรดนิวคลีอิก หรือการกาจัดโปรตีนโดยการเตมสารทเปนดางจัด
                             ึ
                                                                                          ่
                                                                                          ี
                                                                                            
             ไดแก สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด  
                                                                                        ่
                                                                   ํ
                                                           ิ
                       3.  การแยกสกดโปรตนออกจากกรดนิวคลีอกดวยตัวทาละลายอนทรีย โดยสารทนิยมใช ไดแก  
                                                             
                                                                                        ี
                                                                           ิ
                                    ั
                                                                                                 
                                         ี
             ฟนอล และคลอโรฟอรม ซงสารทงสองชนิดจะทาใหโปรตนเสียสภาพธรรมชาต และแยกโปรตนออกไปคนละ
                                                                                       ี
                                        ้
                                                                           ิ
                                        ั
                                                          ี
              
                                  ่
                                  ึ
                                                   ํ
                                                                              ี
                                                                                    ่
                                                                          ี
             สวนของสารละลาย โดยกรดนิวคลีอิกจะละลายอยูในชั้นของน้ําสวนบน ขณะทโปรตนและสิงปนเปอนอ่นๆ จะ
                                                                                          
                                                                          ่
                                                                                              ื
             อยูระหวางชั้นของน้ํา และฟนอล/คลอโรฟอรม
                                                  
                                                                                                 ี
                       4.  การตกตะกอนกรดนิวคลีอกดวยแอลกอฮอล โดยปกตกรดนิวคลีอกสามารถละลายไดดใน
                                                                                                
                                                                                ิ
                                                ิ
                                                                      ิ
                                                                                     ั
                                                                                             ี
              ั
                                                                                       ้
                                                                                          ื
                                                              ี
             บพเฟอรท่มี pH  เปนกลาง แตจะไมละลายในสารละลายท่เปนกรดหรือแอลกอฮอล ดงนันเม่อมการเตม
                                                                                                  ิ
                     ี
                                                                                   
                                                                   ิ
                                                                                                 
             แอลกอฮอลลงในสารละลายกรดนิวคลีอิกจึงทําใหกรดนิวคลีอิกเกดการรวมตัวเปนกลุมกอนขนาดใหญจน
             สามารถมองเห็นไดดวยตาเปลา
                                                                          ็
                       5.  การเก็บรักษากรดนิวคลีอกหรือดเอ็นเอท่แยกสกัดได ควรเกบอยูในน้ําบริสุทธิ์หรือบัพเฟอร
                                                           ี
                                                                     
                                                     ี
                                               ิ
             เชน บัพเฟอร TE ที่สะอาดปราศจากสิ่งปนเปอนที่อุณหภูมิ -20 หรือ -80 องศาเซลเซียส
                                                               ิ
                     การสกัดพลาสมดดีเอนเอจากเซลลแบคทเรียดวยวธี Alkaline Lysis การสกดพลาสมดดเอ็นเอ
                                                                                            ิ
                                                  
                                       ็
                                                                                     ั
                                                       ี
                                  ิ
                                                                                              ี
             จากเซลลแบคทเรีย โดยวิธีการทาใหเซลลแบคทเรียแตกสลายดวยสารละลายท่มสวนประกอบของ sodium
                                       ํ
                                                    ี
                                                                
                                                                              ี
                                                                            ี
                          ี
             hydroxide  (NaOH)  และ sodium  dodecylsulfate  (SDS)  โดยท  SDS  จะทําใหเกดการเสียสภาพตาม
                                                                     ี
                                                                                   ิ
                                                                     ่
                                                           ํ
             ธรรมชาตของโปรตนในเซลลแบคทเรีย สวน  NaOH  จะทาใหเกิดการเสียสภาพตามธรรมชาตของโครโมโซม
                                         ี
                     ิ
                                                                                        ิ
                            ี
                                                                                         ื
                                  ื
                                ่
                                  ่
             และพลาสมดดเอนเอ ซงเมอทาการเตมสารละลาย potassium  acetate  ท่มีสภาพเปนกรด เพ่อปรับสภาพ
                                                                          ี
                         ี
                           ็
                                ึ
                      ิ
                                     ํ
                                           ิ
                                                                                   ี
                                            ื
                               ่
                                                                                         ่
                               ี
                                                                                         ี
                                                                                             ํ
             สวนผสมจากสภาวะทเปนดางใหกลับคนสภาพเปนกลาง (neutralisation)  พลาสมดดเอนเอทถกทาใหเสีย
                                                                                          ู
                                                                                     ็
                                                                                ิ
                            ้
                                                                 ี
                                                                 ่
                                                                                    ี
             สภาพไปกอนหนานี จะกลับคนสูสภาพเดิมอยางรวดเร็ว ในขณะทโปรตนและโครโมโซมทเสียสภาพธรรมชาต  ิ
                                    ื
                                                                     ี
                                                                                    ่
                     
                             
                                                      
                                                ู
             ไมสามารถกลับคืนสูสภาพเดิมได และจะถกจับไวดวยโครงสรางท่มความซับซอน ทเกดจากการรวมตัวกน
                                                                                                  ั
                                                                                 ่
                                                                                   ิ
                                                                                 ี
                                                                  ี
                                                                    ี
                                                                                  ่
                                                                                  ี
                                                               
                                                                                    
             ระหวาง SDS และ potassium ตกตะกอนออกมาใหเห็นเปนกอนสีขาว และภายหลังทไดทาการแยกตะกอน
                                                                                     ํ
                                                            
                                                                                                 
                              
                              
             ขาวออกไปโดยการปนเหวียงหรือการกรองพลาสมดจะถกแยกออกมาจากสวนผสม โดยการตกตะกอนดวย
                                  ่
                                                          ู
                                                      ิ
             แอลกอฮอลบริสุทธิ์ (ethanol precipitation) (จุฑาพร แสงประจักษ, 2554)
                                                                   
   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118