Page 23 - ebook.msu.ac.th
P. 23

๑๔




               ความคิด อยากคิดเห็นสิ่งที่ดวงตามองไม่เห็น อยากได้ยินเสียงที่หูไม่ได้ยิน เรียกว่า จินตนาการ ด้วยเหตุที่
               มนุษย์มีความต้องการที่จะใช้จินตนาการ มนุษย์จึงไม่พอใจกับเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆในชีวิตของตน
               นอกจากพฤติกรรมพื้นฐานที่ซ้ าๆนี้ มนุษย์ใคร่จะได้รับการปลอบใจจากเรื่องราวที่ไม่ได้เกิดแก่มนุษย์โดยแท้จริง

               จึงมีการเล่านิทาน ฟังนิทาน จากความสามารถดังกล่าว มนุษย์จึงมีความสามารถทางการประพันธ์ เกิดมีผู้แต่ง
               ผู้เล่า ผู้ฟัง กระทั่งเมื่ออารยธรรมพัฒนาต่อไปจนถึงขั้นบันทึกถ้อยค าที่รจนาเป็นตัวอักษร วรรณกรรม วรรณคดี

               จึงเกิดขึ้น ซึ่งถือได้ว่ามีความสอดคล้องกับการศึกษาเรื่องราวพระวอพระตาในเอกสารใบลาน โดยมีการ
               น าเสนอออกมาในรูปของลักษณะร้อยกรองท้องถิ่น และเลือกน าเสนอเหตุการณ์และการใช้ค าที่มี

               ลักษณะเฉพาะ ต่างไปจากพระวอพระตาในเอกสารประวัติศาสตร์ชิ้นอื่นๆ

                       นอกจากนี้การรับรู้เรื่องราวพระวอพระตาในเอกสารใบลานในสังคมปัจจุบันยังมีความแตกต่างจาก

               การรับรู้เรื่องราวพระวอพระตาจากบันทึกประวัติศาสตร์ชาติ อันเป็นประวัติศาสตร์กระแสหลักที่มีส่วนส าคัญ
               อย่างมากในการสร้างส านึกของคนในชาติ ในเอกสารบันทึกของคนในท้องถิ่น อาจถูกมองจากสังคมส่วนใหญ่

               ว่าเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ถูกแต่งเติมตามจินตนาการของผู้ประพันธ์ หากมองอีกแง่มุมหนึ่งจะเห็น
               ได้ว่าเรื่องเล่าหรือเอกสารในท้องถิ่นมีการอธิบายประวัติศาสตร์แฝงในตัวบท ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่า หากจะศึกษา
               ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นแล้วสิ่งที่เน้นย้ าให้ประวัติศาสตร์นั้นมีน้ าหนักความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นคือ เรื่องเล่า

               ต านาน วรรณกรรม ดังจะเห็นได้จากค าบอกเล่าจากค าให้สัมภาษณ์ของ กว้าง เหล่าบ้านค้อ อายุ 83 ปี
               ชาวบ้านกุดดู่ อ าเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวล าภู ที่พูดถึงพระวอพระตาที่มีความสัมพันธ์กับโบราณสถาน

               โบราณวัตถุว่า “วัตถุชิ้นนี้มีความเก่าแก่ตั้งแต่ปางพระวอพระตา”ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความทรงจ าหรือเงาของ
               ประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกถึงอายุความเก่าแก่ของสิ่งนั้นๆ แต่หากจะศึกษาเรื่องราวในวรรณกรรมพระวอพระตา
               จากเอกสารใบลานนั้น วิธีการทางประวัติศาสตร์ก็เป็นส่วนส าคัญอีกอย่างหนึ่งในการอธิบายมิติเวลา เหตุการณ์

               ทางสังคมหรือยุคสมัยของวรรณกรรมนั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังที่ (กฤษณา เกษมศิลป์ ๑๙๘๖ : ๑) กล่าวว่า ไม่มี
               ชาติใดในโลกที่จะมีประวัติศาสตร์ล้วนๆ โดยไม่อาศัยต านาน แม้แต่ชาติเกิดใหม่ เช่น อเมริกา ที่มีเรื่องราว

               ท้องถิ่นและการต่อสู้กับอินเดียนแดงเจ้าของถิ่นเดิม ส่วนชาติที่เก่าแก่มีอายุนับพันปีขึ้นไป ย่อมต้องมีเรื่องราว
               ในต านานมากกว่าชาติเกิดใหม่ เรื่องในต านานนั้นแท้จริงคือเรื่องจริง เกิดขึ้นจริง คนในชาตินั้นเชื่อถือ และนับ

               ถือว่าเป็นเรื่องส าคัญมีอิทธิพลต่อความกล้าหาญ ต่อความรักชาติ ต่อขนบประเพณีบ้านเมือง เรียกว่าเป็นเรื่อง
               ถูกใจของคนยุคนั้น จากการค้นคว้าข้อมูลพระวอพระตาในเอกสารประวัติศาสตร์พบว่า เหตุการณ์ที่เกี่ยวโยง

               กับพระวอพระตาเกิดขึ้นในช่วงยุคสมัยอยุธยาตอนปลายถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้นซึ่งผู้ปริวรรตได้กล่าวไว้
               เกี่ยวกับเหตุการณ์พระวอพระตาในเบื้องตน


                       นอกจากนี้ยังพบว่าเนื้อหาพระวอพระตาฉบับนี้มีการเลือกน าเสนอเหตุการณ์ที่มีความแตกต่างไปจาก
               พระวอพระตาในเอกสารประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ผู้ปริวรรตได้เลือกเอากรอบแนวคิดเกี่ยวกับภาพแทน
               (representation) มาประยุกต์เป็นแนวคิดส าหรับการศึกษาครั้งนี้ ทั้งนี้ สจ๊วต ฮอลล์ (Stuart Hall) (อ้างถึงใน

               วันชนะ ทองค าเภา ๒๕๕๑ : ๑๖) นักวิชาการวัฒนธรรมศึกษา เสนอว่า มนุษย์คิดและเข้าใจสิ่งต่างๆผ่านภาษา
               ดังนั้น ภาษาจึงมีบทบาทส าคัญที่สุดในการเสนอภาพตัวแทน ซึ่งมีสองขั้นตอนคือ มนุษย์มีมโนทัศน์ (หมายถึง

               ภาษาสามัญทั่วไปที่มนุษย์ใช้แปลความคิดออกมา) เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ มโนทัศน์เหล่านั้นหมายรวมถึงรูปธรรม



                                                 พระวอ-พระตาในเอกสารใบลาน
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28