Page 54 - ebook.msu.ac.th
P. 54
ส่วนความคงทนถาวรและความประณีตก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนตัวและการใช้ประโยชน์เช่นกัน
แต่อาจจะมีเหตุผลอื่นประกอบด้วยบ้างคือ ระยะห่างไกล - ใกล้ ระหว่างหมู่บ้านกับเถียงนา เพราะเถียงนา
ที่อยู่ห่างไกลหมู่บ้านจะต้องใช้อาศัยอยู่กินหลับนอนค้างคืนที่เถียงนาเป็นเวลาต่อเนื่องกันค่อนข้างยาวนานทั้ง
ครอบครัว จึงมักจะมีความจำเป็นต้องสร้างให้มีขนาดใหญ่และมีความคงทนถาวรพอที่จะอยู่กันได้อย่างสะดวก
สบายพอสมควรแก่ความจำเป็นตลอดฤดูการทำนา ซึ่งหลายแห่งจะมีการกั้นฝาเถียงนาให้มิดชิด ด้วยเพราะ
นอกจากจะคุ้มแดดโดยการมุงหลังคาแล้ว ยังจะต้องให้สามารถคุ้มฝนได้ระดับหนึ่งด้วย และถ้ายกพื้นสูงก็จำเป็น
จะต้องทำบันไดขึ้นลงเหมือนเรือนพักอาศัยทั่วไป
กรณีเช่นนี้ลักษณะสภาพของเถียงนาก็จะเริ่มเปลี่ยนสภาพเป็น “เหย้า” หรือบางครั้งบางแห่งก็อาจจะ
เรียกว่า “เถียงเหย้า” ที่พร้อมจะอยู่อาศัยอย่างถาวรตลอดปีได้ และถ้ามีกลุ่มเถียงนาของคนอื่นขยับโยกย้ายมา
สร้างอยู่ใกล้ๆ ร่วมกันมากขึ้น ก็จะมีการพัฒนาให้ถาวรมั่นคงมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงโดยการ
รื้อเหย้าหรือเถียงนาเหย้าเพื่อสร้างเป็น “เรือนใหญ่” ขึ้นใหม่ เป็นการเตรียมที่อยู่อาศัยเพื่อรับสภาพสังคมการ
อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวรวม (Stem - Family) จนกระทั่งกลายเป็นชุมชนใหม่ในที่สุด
จากการศึกษาสำรวจลักษณะและขนาดของเถียงนาทั่วๆ ไปในอีสานพบว่าเราอาจแบ่งเถียงนาที่สัมพันธ์
กับความจำเป็นเรื่องประโยชน์ใช้สอยออกได้เป็น ๒ ลักษณะใหญ่ๆ คือ ๑. ลักษณะชั่วคราว ๒. ลักษณะ
ค่อนข้างถาวร
เถียงนาลักษณะชั่วคราว
มักจะพบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะในกรณีรายที่มีนาอยู่ใกล้บ้านสามารถเดินทางไปกลับได้ง่าย ไม่เสีย
เวลามากนัก เพราะจะใช้อาศัยเฉพาะเวลากลางวันที่ออกไปทำนา ส่วนมากมักจะมีขนาดค่อนข้างเล็กเสาหลัก
๔ ต้น มักทำเป็นห้องเดียวโล่งตลอด ยกพื้นเถียงง่ายๆ บางเถียงก็จะไม่ยกพื้นเพราะใช้วิธีปรับดินให้เรียบเป็นพื้น
เลยก็มี บางครั้งก็จะใช้แคร่ไม้ตั้งไว้ใต้หลังคาคลุมก็มีเช่นกัน ส่วนบางคนก็อาจจะต่อเสาแคร่ไม้ให้สูงขึ้นทำให้เป็น
โครงสร้างหลังคามุงด้วยหญ้าคาหรือหรือหญ้าแฝกตามที่หาได้ เวลาที่ต้องการใช้ก็จะช่วยกันยกออกไปหรือ
ยกใส่ล้อรถเข็นไปตั้งใต้ร่มไม้ดอนหัวนาจนเรียกกันเล่นๆ ว่าเถียงนาเคลื่อนที่ก็มี
เถียงนาลักษณะค่อนข้างถาวร
ส่วนใหญ่มักจะสร้างในนาที่อยู่ไกลจากหมู่บ้านมากๆ ไม่สะดวกต่อการเดินทางไปกลับในแต่ละวัน
เพราะจะมีสัมภาระและสัตว์ใช้งานไปด้วยทำให้ลำบากยุ่งยากเป็นภาระในการเดินทาง จึงมักจะสร้างค่อนข้าง
ถาวรเพื่อใช้อาศัยอยู่กินหลับนอนติดต่อกันนานๆ เกือบตลอดฤดูทำนา หลายแห่งก็จะกั้นฝาค่อนข้างมิดชิดด้วย
แต่จะไม่กั้นห้อง เถียงนาแบบนี้มักจะมีขนาดเสา ๖ ต้น คือจะมี๒ ห้องเสา มีทั้งใช้ไม้จริงเนื้ออ่อนและเนื้อแข็ง
ทำโครงสร้างทั้งหมด ยกพื้นด้วยกระดานไม้จริง ส่วนหลังคาจะมุงด้วยหญ้าคา หญ้าแฝก หรือแผ่นกระเบื้องไม้
(แป้นมุงหรือแป้นเกล็ด) และสังกะสีที่นิยมกันมากในภายหลัง
52