Page 51 - ebook.msu.ac.th
P. 51
ก่อนจะเป็นเถียงนา
ในเบื้องต้นนี้คงจะทำได้เพียงการสันนิษฐานจากหลักฐานบางอย่างที่ค้นพบเท่านั้นว่า เมื่อมนุษย์พ้น
จากสภาพการอยู่อาศัยตามถ้ำเพิงผาที่ใช้ชีวิตเร่ร่อน เก็บหาของป่าล่าสัตว์ มาสู่การรู้จักสร้างที่อยู่อาศัยของ
ตนเองจนพัฒนาสังคมของตัวเองเป็นชุมชนขนาดต่างๆ อยู่ติดที่เป็นหลักแหล่งทำการเกษตรกรรมใกล้ๆ กันกับ
ชุมชนที่อยู่อาศัย
ครั้นเมื่อชุมชนขยายตัวใหญ่ขึ้นก็ย่อมเกิดปัญหาเรื่องปริมาณผลผลิตไม่เพียงพอ ต้องพยายามหาทาง
ผลิตให้ได้ผลมากขึ้น และมีปัญหาพื้นที่ทำมาหากินที่ต้องขยับขยายออกไปกว้างไกล ห่างไกลจากุมชนมากขึ้น
จำเป็นต้องใช้เวลาในการเดินทางไปประกอบอาชีพทั้งไปและกลับ แต่ไม่ว่าที่ทำกินจะอยู่ใกล้หรือไกลจากชุมชน
ก็ตามในช่วงเวลาที่ต้องทำงานตลอดทั้งวันนั้น เข้าใจว่าชาวนาคงจะใช้ร่มเงาของต้นไม้ในที่นาหรือบริเวณใกล้เคียง
เป็นที่พักอาศัยหุงหาอาหาร พักผ่อนและทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องการและจำเป็นเท่าที่สภาพแวดล้อมในธรรมชาติ
ท้องถิ่นจะเอื้ออำนวยให้ทำได้
แต่เนื่องจากร่มไม้จะมีข้อจำกัดในตัวเอง เรื่องประโยชน์ใช้สอยเป็นที่กำบังทั้งแดด ฝน และ ลม ทั้งยัง
ไม่สามารถจะบังคับและควบคุมพื้นที่และทิศทางของร่มเงาได้อย่างเต็มที่ตามต้องการด้วย ทางเลือกหนึ่งที่จะ
ทำได้ก็คือการสร้างเพิงพักอย่างง่ายๆ ขึ้นแทนร่มเงาต้นไม้ในธรรมชาติ เพื่อให้ได้ประโยชน์ใช้สอยตามที่ต้องการ
ซึ่งจัดว่าเป็นการแก้ปัญหาขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิตประกอบอาชีพเท่าที่พอจะทำได้
เถียงนากับความเชื่อบางอย่างในอดีต
คำที่ใช้เรียก “เถียงนา” นั้นอาจกล่าวได้ว่า เป็นคำเรียกกลางๆ ทั่วไปของชาวอีสานที่ใช้เรียกที่พักอาศัย
ชั่วคราวที่สร้างไว้ในนา เหมือนกับคำว่า ห้างนาของภาคเหนือ โรงนาของภาคกลาง และขนำนาของภาคใต้
นั้นเอง
ถ้าสร้างอยู่ในไร่บนภูเขาก็จะเรียกกันว่า “ทับ” ที่ใช้เป็นที่พักตอนออกไปทำไร่ เลี้ยงควาย หาพืชผัก
ในป่าเวลากลางวัน และใช้เป็นที่พักตอนออกไปล่าสัตว์ จับสัตว์ในเวลากลางคืน
แต่คนที่ทำไร่ตามพื้นที่ราบทั่วไปมักจะเรียกคล้ายเถียงนาว่า “เถียงไร่” ซึ่งจะออกเสียงตามสำเนียงของ
ชาวอีสาน ร. (เรือ) เป็น ฮ. (นกฮูก) ว่า “เถียงไฮ่”
อย่างไรก็ตาม เคยปรากฏพบว่าชาวอีสานบางคนก็จะออกเสียงเพี้ยนเป็น “เสียงนา” ก็มี และยิ่งไป
กว่านั้นก็คือคนภาคกลางหรือภาคอื่นๆ ได้ยินคำว่าเถียงนาเพี้ยนไป จนกลายเป็น “เขียงนา” ก็มีอีกเช่นกัน
สำหรับคำว่า “เถียง” คำเดียวนั้นดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถหาที่มาและความหมายได้อย่างแน่นอน
ชัดเจนแม้จะเคยพบว่ามีความเชื่อว่าจะต้องมีการถกเถียงกัน เพื่อไล่ผีวิญญาณที่อยู่ในบริเวณนั้นก่อนสร้างอยู่บ้าง
ก็ตามแต่ก็ชวนให้อดคิดไม่ได้ว่า อาจจะเป็นเพียงเรื่องเล่าเพื่อลากเข้าความของชาวบ้านอีสานบางคนก็ได้
เพราะจากการสัมภาษณ์ที่ผ่านๆ มายังมีข้อมูลสนับสนุนไม่มากพอที่จะยืนยันให้น่าเชื่อถือได้มากนัก
49