Page 103 - ebook.msu.ac.th
P. 103

มือผู้ทรงคัพภ์นั้นแล บ่ควรซื้อบ่ควรขายอันใดแลก็บ่ควรซื้อข้าช้างม้าเมื่อคัพภ์ยังมีเฮือนนั้นแล ก็บ่ควรสร้างแปง
                ดรงกุฎีวิหารแล
                               อัน  ๑ ในเมื่อจักสร้างโฮงก็ดี ภิกขุแลสามเณรแลกระโยมก็ดี หากได้ไปมีชู้แลทรงคัพภ์ไปสัน

                       นั้นก็บ่ควรจักสร้างแปงยังโฮงแล เจดีย์ วิหาร ยามนั้นแล เหตุนั้นเมื่อจักแต่งแปงนั้นคนผู้เป็นศรัทธา
                       ก็บริสุทธิ์แลเจ้าวัดก็บริสุทธิ์ ทั้ง ๒ ฝ่าย จิงบ่ควรสร้างแปงยังโฮงแล ครั้นสร้างแปงดังนั้นก็จิบหายแล



                       ๒)  ประการ  ๑ อันว่าปู่ย่าเอาหลานผู้หญิงผู้ชายมาเลี้ยงไว้สันนั้น ในเมื่อเถิงกาลเมื่อกระทำมังคล
                กรรม มีผัวมีเมียนั้น ปู่ย่าผู้เลี้ยงเอามือขาทั้งสองซ้อนกันแล้วดังนั้นในเมื่อลูกเมื่อหลานเลี้ยงนั้นเสี้ยงอายุแลจุตติ

                ไปนั้นก็ควรกระทำโกฏิมังคละ ๓ นั้นคือว่า มัดมือ แลอาบน้ำอุ่น นั้นแล ป้อนข้าวกุมนั้นใน ๓ ประการนี้ให้
                ผ่อนเสีย

                               อัน  ๑ บ่ใช่แท้นั้นแล ครั้นบ่ผ่อนเสียอัน ๑ พอยให้พร้อมทั้ง ๓ สันนั้นก็มักฉิบหายนั้นแล
                       อันนี้กล่าวด้วยลูกเลี้ยงหลานเลี้ยงนั้นแล
                               อัน  ๑ คนเฮือนเดียวแลเป็นพยาธิหนักพร้อมกันทั้ง ๒ นั้น ผู้หนึ่งพอยตายไปก็บ่ควรรับของ

                       อันท่านมาค้ำชูก็บ่ควรไว้แฮมคืนก็บ่ควรทานข้าวสังส่งสะกานด้วยไฟแล คนผู้ใดมีอายุบ่พอสิบปีแลตาย
                       นั้นก็บ่ควรไว้แฮมคืน บ่ควรเอาลงก้ำวันออกเฮือน บ่ควรส่งสะกานด้วยไฟ บ่ควรเอาพระเจ้านำหน้า

                       บ่ควรรับของทานท่านอันมาค้ำชูเท่ายังดินแล บุคคลละผู้ ๑ บ่ขับตามฮีตคองหนโลกไปนั้นก็มักได้
                       ต้องโทษทั้งหลายนั้นแล เภยยะก็มักมาเถิงแล



                (จะแปงเฮือนอยู่ แลเฮือนซ่ายซักคืน อยู่นี้หนาแล)
                       ๓)  ประการ  ๑ คนตายไว้แฮมคืนสันนั้นอันว่าคนอันจักใส่ล่วงสูดไปนั้นก็บ่ควรสร้างแปงในวันอันตาย

                นั้นเทิน กรรมควรกระทำกรรมกันนั้นคือว่า สอดไม้คาน ๑ กองหลัว ๑ ก่ายขั้นได ๑ ไพร่น้อยควรก่ายตายแล
                ในกรรม ๓ ประการ นี้ควรกระทำพร้อมกันในวันอันตายนั้นแล คันบ่กระทำพร้อมกันสันนั้นเฮือนก็มักจิบหาย
                แลส่วนว่าจักไว้คนตายนั้นบ่ควรไข้อย่าบนหัวใว้ครั้นจักปงเมื่อใดก็ควรไขเมื่อนั้นแล

                       ๔)  ประการ  ๑ เฮือนผู้ใดไม้เสาบ่ดีจักถ่ายเสียเอาไม้ใหม่มาใส่นั้นให้เอาไม้แทกให้เถิงที่อันเข้าในดิน
                นั้นแล ให้สุดปลายดวด แล้วเผี่ยนเทิน ในเมื่อถอนไม้เก่าเหล้มบ่ดีนั้นออก ให้ว่าดังนี้ โทษเภยยะ อันบ่ดีนั้น

                จงภายหนีไปกับไม้เหล้มนี้ทั้งมวลเทิน จงว่าปรารถนาดังนี้แล้วเอาไปทอดไหลน้ำเสียเทินอัน ๑ ยามเมื่อ
                แปงเฮือนแป้นตกลงมาแล เสาฟัดถืกกันก็ดี ก็ควรแทกเอาเหล้มใหม่ถ่ายเสียเทิน
                               อัน  ๑ ในวันสร้างแปงนั้นครั้นว่านกก็ดี กาก็ดี หากมาจับไม้เหล้มใดนั้นก็ควรถอนเหล้มนั้น

                       เสียเทิน ครั้นว่าบ่ถอนก็จิบหายโทษก็มาตั้งต้นแล
                               อัน  ๑ เฮือนซ่ายเซือนไปสันนั้นก็จักซักหาลากคืนให้ซื่อสันนั้น ก็ควรกระทำให้แม่นวันอัน

                       แปงแต่ก่อนนั้นเทิน เดือนก็ดีแฮมก็ดีหัวนั้นก็ดีแลแฮมค่ำ ๑ หรือ ๒ ค่ำนั้นจักให้ฮู้อัน ๑ เมือจักแปง
                       เฮือนนั้นให้นับเอาอายุผัวเมือเจ้าเฮือนบ่มีเท่าใดให้ถอนเสียแล ๘ แล ๘ นั้นเหลือบ่พอ ๘ นั้น มีเท่าใด
                       ให้ทวายตามนั้นเทิน ครั้นว่า เศษ ๑ เฮือนสควาย เศษ ๒ เศรษฐี เศษ ๓ ว่าเสาดั้งตั้งเศษ ๔

                       ตัวนั้นเฮือนขั้นไดแก้ว เศษ ๕ ว่าเฮือนปราสาท เศษ ๖ ว่ากาจับ บ่ดีแล เศษ ๗ ตัวนั้นว่าเฮือนบังตน
                       คนบ่ดี แปงแล ครั้นว่าบ่เหลือจักตัวนั้นสูญเสียว่าเฮือนพลิก ขว้าม บ่ควรแปงบ่ดีแลจิบหายตายไป

                       ตาบท่อต่อเท่าเซ่นลูกเซ่นหลานเซ่นเหลนแล

                                                           101
   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108