Page 106 - ebook.msu.ac.th
P. 106

ท่านเป็นดังนั้นบ่ให้พรเสียสันนั้นจิงวุฒิจำเริญแล ครั้นฮำเพิงว่าท่านหากละโรงกูเสียแล้วแลว่าอันบ่ได้
                      ตามให้ทานคืนมาอยู่เสียดังอันก็เป็นโทษโพยภัยภายลุนนั้นจิงควรแปงเฮือน มัดยังขื่อแลแปลุนดังนั้น
                      จิงควรแปงสาสขื่อแลแปลุนนั้นมาจักแปงสันใดก็ตามใจมักเทิน บุคคละผู้ใดอันแปงเฮือนสำคัญยกให้

                      ใหญ่แล้วเมื่อลุนพอยซ้ำมาแปงเฮือนเสาดั้งจำดินเล่าก็บ่ควรแล ส่วนอันว่าเสาดั้งฝังดินนั้น ควรอยู่ ๓
                      ปีนั้นแล

                              อัน  ๑ ครั้นว่าคนตายแล หมู่ไปสู่ป่าช้านั้น คนอันอยู่ป่าช้ามาต้อนรับเอาก็บ่ดี
                              อัน  ๑ คนขึ้นอยู่บนกองหลัวนั้นรับเอาก็บ่ควรแลจิบหายตายต่อเท่าเซ่นลูกเซ่นหลานแล
                      อันว่าเสาหลักสาก่อนนั้นน้ำหากย้อยตกก็ดี กองหลัวหากดคนคลานไปก็ดี มักจิบหายตายต่อเท่าเซ่น

                      ลูกเซ่นหลานแล ส่วนว่าหมากเหมี้ยงยาก็บ่ควรห่อทานของท่านก็บ่ควรให้เหลือเมือเฮือนสักอันเทิน
                      คนผู้ใดตายคัพภ์มีในท้องบ่ควรไว้ข้ามคืนแล บ่ควรรับของท่านมาค้ำชู ครั้นบ่กระทำสันนั้นเจ้าก็จิบ

                      หายวายวอดแล
                              อัน  ๑ ลูกอ่อนครั้นบ่พอ ๑ ปีแลตายนั้นก็บ่ควรไว้ข้ามคืนผิว่าตายเมื่อเกือบแจ้งก็บ่ควรให้
                      ฮอดแจ้งแล บ่ควรรับของท่านอันมาค้ำชู บ่คุณส่งสะกานด้วยไฟ บ่กระทำตามคองอันนี้ก็มักจิบหาย

                      วายวอดไปแลคนทั้งหลายจักสร้างแปงโฮงก็ดี วัดก็ดี เรือนก็ดีแล ไปไม้ในป่าสันนั้นไม้ต้นอันฟันนั้น
                      ทว่าใบบ่ฮอดบ่แจบดินลงค้างเสียยังต้นไม้ก็ดี เครือเขาก็ดี ไม้ต้นนั้นก็บ่ควรเอา ครั้นหากด้นเอา ดังนั้น

                      อันว่าเจ้าเฮือนอันนั้นก็บ่วุฒิ ก็บ่ยืนแล


                     ๑๕)  ประการ  ๑  ผู้ทรงคัพภะนั้นก็บ่ควรผูกมือถือขวัญแก่บุคคละผู้กระทำมังคลกรรมนั้นแล แม้นว่า
                 หากเป็นแม่ นาย ป้า อา ก็ดี ก็บ่ควรกันกระทำสันนั้นก็จิบหาย ข้าวของสมบัตติก็ผ่อนไปแล


                     ๑๖)  ประการ  ๑  จักสร้างเต็มมากหนักแล

                              อัน  ๑ ส่วนว่าวัดแลกระฎี อันมียังซื่อนั้น แต่นั้นยังมีเศรษฐีผู้ ๑ อันได้กินแก้วที่นั้น ในเมื่อ
                      เศรษฐีผู้นั้นหากมาตายยังนอกบ้านที่ ๑ เขาพอยเอาซากขอนเศรษฐีผู้นั้นเข้ามาในบ้านที่นั้นแล้วก็เอา

                      ออกไปก้ำวันตก บ้านที่นั้นก็ส่งสะกานยังซากผีเศรษฐีผู้นั้นยังป่าช้าที่นั้นแล บ่นานเท่าใดพยาธิโรคา
                      ก็มีมาบังเกิดแก่ชาวบ้านที่นั้นก็ฉิบหายมากนัก ไฟไหม้บ้านอันนั้นหลายค่ายมากนัก ก็ลวดจิบหายไป
                      เสี้ยงแล เหตุดังนั้นก็บ่ควรเอาคนตายเข้ามาในบ้านเพื่ออันแล

                              อัน  ๑ อันว่าวันสังขารล่องนั้นก็ดี วันเนาก็ดี วันปีใหม่ วันเดือนดับก็ดี ในวันทั้งหลายฝูงนี้
                      มนุษย์มรณังอันคนหากตายนั้น นะกะโรนติ ก็บ่ควรไปข้ามคืนแล



                     ๑๗)  ประการ  ๑ คนฝูงมาค้ำชูคนตายนั้น บ่ควรนอนแฮมแล ครั้นว่านอนให้นอนถ้วน ๗ วัน ครั้นว่า
               วันหัวทีบ่ได้นอน วันลุนจิงมานอนดังนั้นบ่ควรแล ครั้นว่าปลงขอนผีเถิงป่าช้าแล้วหาไฟบ่ได้สันนั้นบ่ควรคืนมาเอา
               ไฟในบ้านแล แพ้บ้านเข็ดแล เมื่อบ่ทันปลงซากผีตายเทื่อนั้น ให้เอาไฟมาสุมไว้ฟอนก่อนแล



                     ๑๘)  ประการ  ๑ วันเดียวนั้นแปงเฮือนพร้อมกัน ๒ หลังนั้น หลังอันปลูกเสาก่อนนั้นแล้วก่อนแล
                 ครั้นหลังปลูกเสาก่อนแล้วลุนดังนั้นบ่วุฒิ

                              อัน  ๑ แปลงเฮือนดีใหญ่แล้วแลปลูกเสาเฮือนพอยพากันทว่าไปดังนั้นเข็ดนักแล ควรให้เอา
                      เสาก่อนนั้นมาสุมกันฮวมที่เดียวที่แปงเฮือนหั้น แล้วให้ราธนาเอาพระสังฆเจ้ามาสูดมังคลธรรมที่นั้น

                                                          104
   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111