Page 38 - ebook.msu.ac.th
P. 38

แต่ในอธิบายศัพท์วรรณกรรมเรื่อง เสียวสวาสดิ์ ในหนังสือรวมวรรณคดีอีสาน (เล่ม ๑) ของปรีชา
               พิณทอง (อดีตพระศรีธรรมโสภณ ปธ.๙) ใช้คำว่า เฮือนย้าว ในความหมายว่า กระต๊อบ เรือนเล็กๆ ไม่มั่นคง
               แข็งแรง



                      จะเห็นได้ว่าจากเอกสารทั้งสามดังกล่าวมานี้ มีการใช้รูปคำแตกต่างกันทั้งหมด คือ อย้าว, เย่า, ย้าว
               ซึ่งแม้จะแตกต่างจากรูปคำที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันคือ เหย้า แต่ในแต่ของความหมายทั่วไปก็พอเข้าใจกันได้ว่า

               เป็นที่อยู่อาศัยมีลักษณะชั่วคราวไม่แข็งแรงเท่าใดนัก และในข้อเขียนนี้จะขอใช้คำว่า เหย้า ตามรูปคำที่ใช้กัน
               ทั่วไปในปัจจุบัน



                      ก่อนจะแยกไปอยู่เหย้า

                      ถ้าพิจารณาสภาพครอบครัวของชาวอีสาน บนพื้นฐานสังคม เศรษฐกิจแล้ว จะพบว่าค่านิยมในการ

               แต่งงานเป็นครอบครัวนั้น จะต้องเอาเขยเข้าบ้าน ดังภาษิตเก่าอีสานที่ว่า




                                 เอาเขยมาเลี้ยงพ่อเฒ่าแม่เฒ่า   ปานได้เข้ามาใส่เล้าใส่เยีย


                                 เอาลูกใภ้มาเลี้ยงปู่เลี้ยงย่า    ปานได้ผีห่ามาใส่เรือนใส่ซาน




                      จะเห็นได้ว่า ถ้าแต่งงานแล้ว การเอาลูกเขยมาเลี้ยงพ่อตาแม่ยายนั้น หมายถึงการได้แรงงานมาช่วย

               สร้างฐานะทางเศรษฐกิจ เพราะแรงงานของลูกเขยใช้ง่ายใช้คล่องกว่าแรงงานของลูกชาย เนื่องจากมีความเชื่อ
               เกี่ยวกับอำนาจของพ่อตาแม่ยายโดยผ่าน เปิง ที่อยู่ในห้องเปิงซึ่งเป็น ห้องผี/ห้องพระ และยังมีค่านิยมของ
               สังคมคอยกำกับให้ลูกเขยต้องช่วยงานของครอบครัวด้วย



                      การเข้าไปอยู่บ้านพ่อตาแม่ยายนี้ เป็นที่รู้กันว่าจะต้องอยู่อาศัยใน ห้องส้วม ซึ่งเป็นห้องนอนของลูกสาว
               ในครอบครัวนั้น เป็นครอบครัวใหม่ที่รวมอยู่กับครอบครัวเดิมที่ต้องทำงานร่วมกัน ผลผลิตรายได้ทั้งหมดจะเป็น

               กองกลางในลักษณะกงสีตลอดไประยะเวลาหนึ่ง จนกว่าจะแยกครอบครัวออกไปทำมาหากินเป็นเอกเทศ
               ของตัวเอง ซึ่งมีหลายเหตุผลที่ต้องแยกครอบครัวออกไป เช่น เมื่ออยู่ช่วยพ่อแม่ทำงานไประยะหนึ่งประมาณ
               ๑ - ๓ ปี หรืออาจจะกี่ปีก็ได้ หรือเมื่อเห็นว่าลูกๆ พอจะโตๆ กันแล้ว ก็จะขอแยกครอบครัวออกไปบางทีพ่อแม่/

               พ่อเฒ่า แม่เฒ่า เห็นว่าถึงเวลาอันสมควรที่จะให้แยกออกไปตั้งตัวกันเองได้แล้ว กรณีเช่นนี้พ่อแม่ก็มักจะแบ่ง
               ที่ดินให้ทำกินกันเอง เพราะที่ดินทำกินบางส่วนก็ได้แรงงานลูกเขยช่วยหักร้างถางพง (Slash and Burn) ด้วย

               บางครอบครัวก็อาจจะต้องแยกครัวเร็วขึ้น ด้วยเหตุผลว่าลูกสาวคนต่อไปเขาจะแต่งงาน ตัวเองจึงจำเป็นต้อง
               แยกออกไป เพราะเขยใหม่จะต้องเข้าไปอยู่ในห้องส้วม ซึ่งมีอยู่ห้องเดียวในเรือนใหญ่ ของพ่อแม่ดังภาษิต
               คำพังเพยอีสานเก่าที่ว่า น้ำใหม่เข้า น้ำเก่าออก คือ เขยใหม่จะเข้าอยู่แทน ฉะนั้นเขยเก่าต้องออกจากห้องส้วม









                                                           36
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43